Reversal pattern รูปแบบการกลับตัว ภาค 1





















Reversal pattern รูปแบบการกลับตัว ภาค 1
reversal pattern แบ่งออก 2 แบบนั่นคือ
1.Candlestick reversal pattern
2.Price reversal pattern
Candlestick reversal pattern นั้นคือการวิเคราะห์แท่งเทียนแท่งราคาโดยแท่งราคาทุกๆแท่งนั้นก็บอกอารมณ์ของตลาดให้เราได้รับรู้กันอยู่แล้ว และแท่งราคานั้นยังสามารถบอกจังหวะกลับตัวตามหลักจิตวิทยาให้เราได้อีกด้วยครับ โดยส่วนตัวผมจะมีลักษณะการวิเคราะห์ที่ให้ความสำคัญกับสัญญาณ reversal ดังนั้นการวิเคราะห์ของผมจึงจะอ้างอิงกระบวนการเกิดลักษณะแท่งเทียน ลักษณะรูปแบบราคาเสมอๆ Candlestick pattern นั้นมีรูปแบบเกิดขึ้นจากพ่อค้าชาวญี่ปุ่นซึ่งท่านได้นำรูปแบบแท่งราคามาพิจารณาสัญญาณกลับตัว การเกิด candlestick reversal pattern นั้นจะเกิดขึ้นบริเวณแนวรับและแนวต้านครับโดย candlestick reversal pattern นั้นจะมีรูปแบบดังนี้ครับ
กรณี Candlestick Reversal Pattern ที่เกิดขึ้นในช่วง Trend ขาลงจะบ่งชี้สัญญาณกลับตัวขึ้น
# รูปที่ 1 HAMMER (ค้อน)
มีลักษณะเกิดบริเวณแนวรับ เป็นการเกิดขึ้นในช่วง trend ขาลง ราคาได้ปรับตัวลงมาสักพักจนเกิดลักษณะกลับตัวบริเวณแนวรับ โดยแท่งราคา Hammer นี้จะมีลักษณะไส้เทียนชี้ลงยาวๆ เป็น 2 เท่าของตัวแท่งเทียนครับ กรณีมีไส้เทียนชี้ขึ้นก็จะมีลักษณะสั้นๆ ดังนั้น Hammer ไส้เทียนล่างจะยาว แต่ไส้เทียนบนจะไม่มีหรือหากมีก็จะสั้นมากครับ หากเจอรูปแบบนี้บริเวณแนวรับเราจะเรียกว่า Hammer ครับ
# รูปที่ 2 INVERT HAMMER (ค้อนกลับหัว)
เป็นลักษณะกลับด้านของ HAMMER ครับซึ่ง invert hammer นี้จะเกิดขึ้นใน trend ขาลง ที่ราคาได้ปรับตัวลงมาแล้วสักพักเช่นเดียวกัน hammer ครับ
# รูปที่ 3 MORNING STAR (ดาวรุ่งอรุณ)
เป็นลักษณะการเกิดขึ้นในบริเวณแนวรับของราคา โดย morning star จะมีลักษณะแท่งเทียน 3 แท่งประกอบกัน โดยแท่งเทียนเล่มแรกจะเป็นแท่งสีแดง แท่งที่ 2 จะเป็นแท่งที่มีลักษณะดรูปดาว แท่งที่ 3จะเป็นแท่งสีเขียวครับ โดยแท่งที่ 1 นั้นปริมาณการซื้อขายต้องบางลง และแท่งเทียนที่3นั้นปริมาณการซื้อขายต้องเพิ่มขึ้นบ่งชี้แนวโน้มการกลับตัวขึ้นครับ
# รูปที่ 4 MORNING DOJI STAR (ดาวรุ่งอรุณโดจิ)
เป็นรูปแบบที่เหมือนกับ morning star เพียงแค่ แท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นจะเกิดเป็นรูปแบบ Doji(โดจิ) ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มกลับตัวขึ้นครับ
# รูปที่ 5 ISLAND BOTTOM (เกาะล่าง)
เป็นรูปแบบคลับคล้ายกับ morning doji star แต่แตกต่างที่ island bottom นี้จะเกิดการเปิด gap ลงของแท่งราคาจึงทำให้เหมือนลักษณะการโดยปล่อยเกาะครับ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการกลับตัวขึ้นครับ
# รูปที่ 6 ENGULFING BULLISH (กระทิงกลืนกิน)
เป็นลักษณะที่เกิดในขาลงซึ่งประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งเทียนแท่งที่2จะมีขนาดลำตัวที่ครอบคลุมแท่งเทียนแท่งที่ 1 แต่ไม่จำเปนต้องคลุมไส้แท่งเทียนก็ได้ครับ และแท่งเทียนแท่งแรกต้องเป็นแท่งแดง แท่งเทียนแท่งที่ 2 ต้องเป็นแท่งเขียวครับ
# รูปที่ 7 PIERCING PATTERN (รูปแบบทิ่มแทง)
เป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นคลับคล้ายกับรูปแบบ dark cloud cover ครับเพียงแค่รูปแบบ piercing นี้จะเกิดขึ้นในตลาดขาลงที่จะกลับตัวขึ้น โดยจะประกอบด้วยแท่งราคา 2 แท่ง โดยแท่งแรกต้องเป็นแท่งแดง และแท่งที่ 2 จะเป็นแท่งเขียวครับ หากแท่งที่ 2 ราคาสามารถปิดสามารถปิดเกิน 50 % ของแท่งราคาแท่งแรกได้จะยืนยันรูปแบบกลับตัวขึ้นครับ
# รูปที่ 8 HARAMI BULLISH PATTERN (กระทิงอุ้มท้อง)
ภาวะกระทิงอุ้มท้องนี้จะประกอบด้วยแท่งราคา 2 แท่ง โดยแท่งแรกนั้นจะเป็นแท่งแดงลำตัวยาวๆ แท่งที่ 2 จะเป็นแท่งสีเขียวเล็กๆสั้นๆ อยู่บริเวณตรงกลางของแท่งที 1 ลักษณะเหมือนมีท้อง ซึ่งจะเกิดขึ้นในตลาด trend ขาลง และจะมีแนวโน้มกลับตัวขึ้นครับ
# รูปที่ 9 HARAMI CROSS BULLISH PATTERN (กระทิงอุ้มท้องโดจิ) ภาวะกระทิงอุ้มท้องโดจินี้ก็จะประกอบด้วยแท่งราคา 2 แท่ง โดยแท่งแรกนั้นจะเป็นแท่งแดงลำตัวยาวๆ แท่งที่ 2 จะเป็นแท่งเทียนโดจิ (Doji) อยู่บริเวณตรงกลางของแท่งที 1 ลักษณะเหมือนมีท้อง ซึ่งจะเกิดขึ้นในตลาด trend ขาลง และจะมีแนวโน้มกลับตัวขึ้นครับ
# รูปที่ 10 BULLISH BELT(เข็มขัดกระทิง)
เข็มขัดกระทิงเป็นแท่งราคาที่มีลำตัวยาวซึ่งเกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง โดยลำตัวแท่งเทียนนั้นจะมีสีเขียวหรือกรณีมีไส้เทียนก็จะมีลักษณะไส้เทียนสั้นๆครับ แต่ที่สำคัญลำตัวแท่งต้องยาวและเกิดบริเวณจุดต่ำสุดของราคาแนวโน้มขาลง เพื่อบ่งชี้การกลับตัวขึ้นครับ
กรณี Candlestick Reversal Pattern ที่เกิดขึ้นในช่วง Trend ขาขึ้นจะบ่งชี้สัญญาณกลับตัวลง
# รูปที่ 11 HANGING MAN (คนแขวนคอ) มีลักษณะคลับคล้ายกับ Hammer เพียงแค่ hanging man นี้จะเกิดขึ้นบริเวณแนวต้าน และช่วง trend ที่เป็นขาขึ้นครับ
# รูปที่ 12 SHOOTING STAR (ดาวตก) มีลักษณะคลับคล้ายกับ INVERT HAMMER เพียงแค่ Shooting star นั้นจะเกิดใน trend ขาขึ้นครับซึ่งบอกสัญญาณกลับตัวของราคา
# รูปที่ 13 EVENING STAR (ดาวประจำเมือง) จะมีลักษณะเหมือน morning star เพียงแค่เกิดขึ้นในช่วงแนวโน้มที่ราคาอยูใน trend ขาขึ้นหากเกิดขึ้นแล้วจะบ่งชี้สัญญาณกลับตัวลงครับ
# รูปที่ 14 EVENING DOJI STAR (ดาวประจำเมืองโดจิ) มีลักษณะเหมือนกับ evening star เพียงแค่แท่งเทียนแท่งที่ 2 จะเกิดเป็นรูปแบบ Doji(โดจิ) และเกิดขึ้นในช่วง trend ขาขึ้น ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มกลับตัวลงครับ
# รูปที่ 15 ISLAND TOP (เกาะบน) เป็นรูปแบบคลับคล้ายกับ evening doji star แต่แตกต่างที่ island top นี้จะเกิดการเปิด gap ขึ้นของแท่งราคาจึงทำให้เหมือนลักษณะการโดยปล่อยเกาะครับ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการกลับตัวลงครับ
# รูปที่ 16 ENGULFING BEARISH (หมีกลืนกิน)เป็นลักษณะที่เกิดในขาขึ้น ซึ่งประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง โดยแท่งเทียนแท่งที่ 2 จะมีขนาดลำตัวที่ครอบคลุมแท่งเทียนแท่งที่ 1 แต่ไม่จำเปนต้องคลุมไส้แท่งเทียน และแท่งเทียนแท่งแรกต้องเป็นแท่งเขียว แท่งเทียนแท่งที่ 2 ต้องเป็นแท่งแดงครับ บ่งชี้แนวโน้มกลับตัวลง
# รูปที่ 17 DARK CLOUD COVER (เมฆปกคลุม) ประกอบด้วยแท่งเทียน 2 แท่ง แท่งเทียนเล่มที่ 1 จะเป็นแท่งเขียวลำตัวยาว แท่งเทียนแท่งที่ 2 จะเป็นแท่งแดง ลำตัวยาวและราคาปิดลงมาปิดต่ำกว่า 50 % ของแท่งที่ 1 บ่งชี้แนวโน้มกลับตัวลงครับ หากกรณีแท่งที่ 2 ลงมาปิดไม่ถึง 50 % ของแท่งที่ 1 เราก็ต้องเฝ้าสังเกตเสมอครับ เพราะ ถือว่าเสี่ยงจะปรับตัวลง
# รูปที่ 18 HARAMI BEARISH PATTERN (หมีอุ้มท้อง) ภาวะหมีอุ้มท้องนี้จะประกอบด้วยแท่งราคา 2 แท่ง โดยแท่งแรกนั้นจะเป็นแท่งเขียวลำตัวยาวๆ แท่งที่ 2 จะเป็นแท่งสีแดงเล็กๆสั้นๆ อยู่บริเวณตรงกลางของแท่งที 1 ลักษณะเหมือนมีท้อง ซึ่งจะเกิดขึ้นในตลาด trend ขาขึ้น และจะมีแนวโน้มกลับตัวลงครับ
# รูปที่ 19 HARAMI CROSS BEARISH PATTERN (หมีอุ้มท้องโดจิ) ภาวะหมีอุ้มท้องโดจินี้ก็จะประกอบด้วยแท่งราคา 2 แท่งเช่นกัน โดยแท่งแรกนั้นจะเป็นแท่งเขียวลำตัวยาวๆ แท่งที่ 2 จะเป็นแท่งเทียนโดจิ (Doji) อยู่บริเวณตรงกลางของแท่งที 1 ลักษณะเหมือนมีท้อง ซึ่งจะเกิดขึ้นใน
ตลาด trend ขาขึ้น และจะมีแนวโน้มบ่งขี้กลับตัวลงครับ
# รูปที่ 20 BEARISH BELT(เข็มขัดหมี)
เข็มขัดหมีเป็นแท่งราคาที่มีลำตัวยาวซึ่งเกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น โดยลำตัวแท่งเทียนนั้นจะมีสีแดงหรือกรณีมีไส้เทียนก็จะมีลักษณะไส้เทียนสั้นๆเช่นเดียวกับเข็มขัดกระทิงครับ แต่ที่สำคัญลำตัวแท่งต้องยาวและเกิดบริเวณจุดสูงสุดของราคาแนวโน้มขาขึ้น เพื่อบ่งชี้การกลับตัวลงครับ
ยังมีรูปแบบ reversal เพิ่มเติมอีกมากมายครับ ซึ่งผมจะขอเขียนในโอกาสต่อไปครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

Cr. คนรักหุ้น

1.การลงทุนในหุ้นไม่มีทางลัด หากนักลงทุนต้องการผลลัพธ์การลงทุนที่ดี การลงทุนศึกษาหาความรู้ ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานของกิจการเป็นสิ่งจำเป็น นักลงทุนที่ทำมากกว่า ย่อมมีแนวโน้มที่จะทำให้ดีกว่าคนที่ทำน้อย หากเปรียบเทียบผลลัพธ์กับความพยายามในแง่ความคุ้มค่า ชีวิตคนๆหนึ่งอาจใช้เวลาในการศึกษา เล่าเรียนศาสตร์ต่างๆเกือบ 20 ปี และสำเร็จออกมาเพียงเพื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน ซึ่งมีโอกาสน้อยที่จะบรรลุอิสรภาพทางการเงิน และมีเวลาที่จะทำสิ่งที่อยากจะทำ มีกำลังที่จะช่วยเหลือสังคม การมุ่งเน้นศึกษาการลงทุนในหุ้นตามแนวทางเน้นมูลค่าเพียงระยะเวลาไม่นาน และสละเวลาติดตามข่าวสาร ความก้าวหน้าของกิจการบ้าง อาจจะเปลี่ยนชีวิตคนทั้งชีวิต
2. ตัดสินใจซื้อและขายหุ้นบนพื้นฐานของกิจการ การลงทุนซื้อหรือขายหุ้นทุกครั้ง นักลงทุนควรพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการ เพราะหุ้นคือส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการ การวิเคราะห์หุ้นก็คือการวิเคราะห์กิจการนั่นเอง
3. สิ่งที่ยากที่สุดในการลงทุนระยะยาวในหุ้น คือการพยายามเป็นนักลงทุนที่ใช้เหตุผล ในสภาวะที่ไม่มีใครมองหาเหตุผล ความสามารถในการมองเห็นกระแส โดยที่ตัวนักลงทุนเองไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระแสนั้น สิ่งที่นักลงทุนควรเข้าใจคือเมื่อมนุษย์มาอยู่รวมกัน จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบคล้ายๆกันเกิดเป็นพฤติกรรมหมู่ หากเกิดมากๆเรียกว่ากระแส ซึ่งบ่อยครั้งพฤติกรรมเหล่านี้จะออกห่างจากความมีเหตุมีผลมากขึ้นทุกทีๆ นักลงทุนที่ใช้เหตุผลควรเพิกเฉยและมองหาประโยชน์จากกระแสนั้นๆ การประสบความสำเร็จในการลงทุนระยะยาวนั้น ต้องอาศัยทั้งปัญญาและสติ การขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งจะทำให้การลงทุนไปไม่ถึงฝั่ง
4. การลงทุนอย่างมีความสุขคือการหาจุดสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง การมุ่งเน้นผลตอบแทนมากเกินไป อาจจะทำให้การลงทุนประสบหายนะ ในขณะที่การเน้นปกป้องความเสี่ยงมากเกินไป จะทำให้การลงทุนไม่อาจสร้างความแตกต่าง เสมือนเรือที่ลอยนิ่งอยู่กลางน้ำ
5. รู้จักตัวเอง และลงทุนให้เหมาะกับสภาพของตัวเอง นักลงทุนแต่ละคนย่อมแตกต่างกันทั้งในด้านทัศนะคติ อุปนิสัยใจคอ ความสามารถในการรับความเสี่ยง จำนวนเงินทุน ดังนั้นการรู้ตัวเอง เข้าใจตัวเอง และนำจุดแข็งมาใช้ประโยชน์ในการลงทุน จะดีกว่าการพยายามเลียนแบบการลงทุนตามนักลงทุนคนอื่นๆ ซึ่งมีสภาพที่แตกต่างออกไป ตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่เน้นความปลอดภัยของเงินต้น ย่อมรับความเสี่ยงได้น้อยกว่า การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่และมั่นคงจะเป็นทางเลือกต้นๆ ในขณะที่นักลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่มาก สามารถลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีขนาดเล็ก ในขณะที่นักลงทุนที่มีเงินทุนสูงไม่สามารถลงทุนได้
6. แรงผลักดันราคาหุ้น ประการแรกคือโดยปัจจัยพื้นฐานความก้าวหน้าของกิจการ ประการที่สองคือแรงผลักดันจากปัจจัยทางด้านอารมณ์ของนักลงทุนในตลาด การเข้าใจแรงผลักดันประเด็นแรก เพียงพอที่จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จ แต่การเข้าใจทั้งสองประเด็น จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จยิ่งกว่า
7. หุ้นของทุกๆกิจการมีมูลค่าที่ควรจะเป็น นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ หากซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น หุ้นที่แม้จะมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น มีการเติบโตของผลกำไรสูง หากนักลงทุนเข้าซื้อที่ราคาแพงเกินไป การลงทุนนั้นอาจจะไม่ทำกำไร แย่กว่านั้นอาจจะขาดทุน ในขณะที่หุ้นที่อาจจะมีพื้นฐานด้อยกว่า หากซื้อในราคาที่ต่ำ มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยเพียงพอ การลงทุนนั้นก็สามารถสร้างกำไรได้ พูดได้ว่าผลลัพธ์การลงทุนขึ้นอยู่กับราคาที่เราจ่ายเปรียบเทียบกับคุณภาพของกิจการที่นักลงทุนได้รับ
8.หุ้นที่ชนะในระยะยาวคือหุ้นของกิจการที่มีอัตราการเติบโตสูง และกิจการต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่โดดเด่น การขาดอย่างใดอย่างหนึ่งจะทำให้ธุรกิจหรือราคาหุ้นไปได้ไม่ไกล ธุรกิจที่โดดเด่น มักจะขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ลูกค้าต้องใช้ซ้ำๆ สามารถขยายฐานลูกค้าออกไปได้ ในขณะที่ลูกค้าเดิมยังคงอยู่ และคู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งขัน หรือเข้ามาได้ยาก หากนักลงทุนสามารถซื้อหุ้นกิจการเหล่านี้ได้ในราคาถูกหรือราคาสมเหตุสมผล และถือไว้ในระยะยาว การลงทุนเช่นนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีเลิศ
9. ราคาหุ้นในระยะสั้นเหมือนเครื่องโหวตคะแนนเสียง แต่ราคาหุ้นในระยะยาวเสมือนเครื่องชั่ง ในระยะสั้นๆมีปัจจัยมากมายที่กระทบราคาหุ้น ทั้งข่าวสารต่างๆ ภาวะเศรษกิจ อารมณ์โลภ กลัว แรงซื้อจากรายใหญ่ แรงซื้อจากต่างชาติ ราคาหุ้นสามารถขึ้นหรือลงได้อย่างไร้เหตุผล แต่ในระยะยาวราคาหุ้นจะไปตามผลประกอบการเสมอ ผลประกอบการเป็นเสมือนมือที่มองไม่เห็นที่คอยกำหนดราคาหุ้น ความจริงที่ว่าราคาหุ้นในระยะยาวจะสะท้อนผลประกอบการเสมอ เป็นความจริงที่สมบูรณ์แบบในตลาดหุ้น
10. จังหวะในการซื้อหุ้นที่ดีที่สุดคือตอนที่มีข่าวร้ายมากที่สุด ทั้งที่พื้นฐานของธุรกิจไม่ได้เปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนทั่วไปมีแนวโน้มจะขายหุ้นเมื่อราคาลดลง และเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้น เพราะนั่นทำให้นักลงทุนสบายใจมากกว่า หากซื้อหุ้นแล้วราคาลดลง นักลงทุนจะรู้สึกผิด และสงสัยว่าทำไมตลาดหรือนักลงทุนคนอื่นๆไม่คิดอย่างนั้น ด้วยความไม่แน่ใจนี้ นักลงทุนจะมีข้ออ้างต่างๆในการขายหุ้นออกไป เช่นว่า หุ้นดีทำไมราคาลง มีข่าวร้ายอะไรที่นักลงทุนยังไม่รู้หรือเปล่า ขายไปก่อนแล้วรอรับกลับที่ราคาต่ำกว่า หรือคำกล่าวที่ว่าถูกแล้วยังมีถูกอีก
และในทางตรงกันข้ามเมื่อราคาหุ้นเพิ่มขึ้น นักลงทุนจะกระตือรือร้นที่จะซื้อหุ้น ด้วยข้ออ้างที่คล้ายคลึงกัน เช่น หุ้นน่าจะดี เพราะไม่ดีราคาคงไม่ขึ้น มีข่าวดีๆอะไรที่นักลงทุนยังไม่รู้หรือเปล่า ด้วยเหตุผลเหล่านี้ หุ้นที่ราคาสูงขึ้น จะสูงขึ้นอีก ยิ่งซื้อราคาก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นยิ่งทำให้นักลงทุนสบายใจ เพราะเข้าใจว่าการลงทุนนั้นถูกตัดสินจากตลาดว่าถูกต้อง แนวโน้มที่นักลงทุนทำการขายเมื่อราคาหุ้นถูก ซื้อเมื่อราคาหุ้นแพง อย่างนี้ จะทำให้การลงทุนล้มเหลวหรือไปได้ไม่ไกล นักลงทุนที่ดีควรทำในทางตรงกันข้าม โดยตัดสินใจซื้อและขายบนพื้นฐานของกิจการ หลีกเลี่ยงไม่ให้อารมณ์ของตลาดเข้ามามีผล ข้อควรระวังของประเด็นนี้คือ การซื้อหุ้นเพียงเพราะเห็นว่าราคาลดลง โดยไม่ได้ตรวจสอบดูว่าพื้นฐานของกิจการมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า จะเป็นอันตรายต่อการลงทุนพอๆกัน
11. มองภาพใหญ่ อย่าใส่ใจภาพเล็ก กิจการทุกกิจการย่อมมีข้อดี ข้อเด่นข้อด้อย แตกต่างกันไป ไม่มีกิจการใดที่ดีพร้อม หรือแย่ไปหมดทุกอย่าง นักลงทุนควรจะเลือกกิจการที่มีข้อเสียน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับราคา การให้ความสำคัญมากเกินไปกับข้อเสียเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ได้มีนัยยะสำคัญอะไร ทำให้นักลงทุนหลายๆคนพลาด ปล่อยโอกาสที่จะได้ลงทุนในกิจการที่ดีเยี่ยมหลุดลอยไป
12. พัฒนาการลงทุน เทคนิควิธีการลงทุนที่เคยใช้ได้ผลดีในวันนี้ อาจจะใช้ไม่ได้ผลดีในวันข้างหน้า วิธีที่เคยใช้ได้ผลดีในต่างประเทศ ไม่สามารถนำมาใช้ได้ผลดีภายในประเทศ ธุรกิจที่ดีในวันนี้ อาจจะไม่ใช่ธุรกิจที่ดีในเวลาต่อมา มีธุรกิจดาวร่วงก็มีธุรกิจดาวรุ่ง นักลงทุนที่ดีควรยืดหยุ่นที่จะปรับการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม กาลเวลาที่เปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือควรตัดสินใจลงทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจ
13. อย่าเสี่ยงเกินตัว การกู้หนี้ยืมสินเพื่อซื้อหุ้น การทุ่มซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากเกินไป แม้อาจจะให้ผลตอบแทนสูงๆติดต่อกันหลายครั้ง แต่หากเกิดความผิดพลาดเพียงแค่ครั้งเดียว อาจไม่มีโอกาสแม้จะแก้ตัว แม้ความเสี่ยงสามารถลดลงได้ด้วยความรู้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่นักลงทุนคนหนึ่งๆจะมีขอบเขตความรู้ในทุกๆเรื่อง นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ การกระจายเงินลงทุนในสินทรัพย์หรือในจำนวนกิจการที่ลงทุนบ้าง เป็นสิ่งที่นักลงทุนควรใส่ใจ
14. การลงทุนระยาวในหุ้น แน่นอนที่สุดว่าจะต้องผ่านทั้งวันคืนที่ดี วันคืนที่แย่ และวันที่แย่สุดๆ การรับรู้และเข้าใจเรื่องนี้ พร้อมที่จะรับมือกับวันร้ายๆ จะดีกว่าการพยายามที่จะหาจังหวะเข้าออกจากตลาด โดยการทำนาย ทายทัก คาดเดา ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะประมาณความถูกต้อง หากการลงทุนระยะยาว สร้างความหวาดกลัววิตกว่าสักวันเหตุการณ์แย่ๆอาจจะเกิดขึ้น การมีทัศนคติที่ว่าในระยะยาวการลงทุนในหุ้นจะให้ผลตอบแทนสูงสุด จะทำให้นักลงทุนถือหุ้นระยะยาวได้อย่างมั่นคง

M กราฟลงมา test low


     M กราฟลงมา test low ตาม Dow theory มองแนวต้าน 61 แนวรับ 59.5/58.75 มองแถวนี้รับไหว vol เริ่มบางๆลง Rsi กำลังจะยกตัว มองแนวโน้มแกว่งตัวสร้างฐานเพื่อกลับขึ้นไปทดสอบ neck line บริเวณ 62.50 ผ่านได้มอง แนวต้านถัดไปที่ 64.25 และมอง target pattern ที่ 67 บาท ครับ กรณีนี้หากขึ้นอาจจะไปทดสอบแนวต้านที่ 65.50 ไม่ผ่านแนะนำแถวๆนี้ขายกันก่อน แล้วมารอรับเพื่อเล่นจังหวะ break out แนวต้านอีกทีก็ได้ครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

จังหวะ Timing

จังหวะ Timing
จังหวะคือ สิ่งสำคัญสำหรับนักเทคนิคและนักเก็งกำไร เพราะ จังหวะคือตัวชี้วัดคุณภาพของการทำกำไร วางจังหวะเข้าดีๆคุณก็ได้กำไรดีหนักๆ วางจังหวะเข้าไม่ดีคุณก็อาจจะได้กำไรน้อยลงหรืออาจจะขาดทุนเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นจังหวะของการเล่นคือ สิ่งสำคัญ เหมือนๆกับคุณจะเล่นกีฬาฟุตบอลหากคุณส่งบอลให้เพื่อนในทีมผิดจังหวะ จากที่กำลังตั้งเกมส์รุกฝ่ายตรงข้ามอยู่ คุณก็จะกลายเป็นฝ่ายตั้งรับแทน หรือไม่ก็อาจจะทำให้เพื่อนในทีมเสียโอกาสทำประตู จังหวะคือสิ่งสำคัญในบางครั้งคุณเห็นหุ้นลงมามากๆแล้วคุณมองว่าถูกรีบเก็บโดยไม่ดูอะไรประกอบ ไม่มีข้อมูล ไม่มีการวิเคราะห์ยึดติดแต่อารมณ์ว่าของถูก โลภไม่ยอมอ่านเกมส์ให้ออก มันก็เหมือนเอามือไปรับมีดที่กำลังตกครับ สุดท้ายมีก็ขาด เจ็บกันไปเป็นทิวแถว ในส่วนของการมองจังหวะจะมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลากหลายแต่ทั้งนี้ผมขอพูดในแง่ของการเลือกหุ้นในแบบของผม และการมองจังหวะที่เหมาะสม ดังนี้ครับ
1.ผมจะทำการแบ่งกลุ่มหุ้นเป็นชุดๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการเล่นให้เหมาะสม
2.ผมจะเก็งกำไรส่วนใหญ่ในหุ้นชุด A B C ดังนั้นหุ้นที่ผมจะเก็งกำไรจะเป็นหุ้นที่พอจะมีพื้นฐานรองรับ แต่จะมีในบางครั้งที่ผมจะเลือกเล่นหุ้นชุด D เช่น กรณีมีข่าวดีมากๆเข้ามา มีปัจจัยบวกตามจิตวิทยาตลาด
3.ผมจะติดตาม catalyst และข่าวแต่ไม่ได้เชื่อทั้งหมด อ่านเพื่อวิเคราะห์จิตวิทยาว่าตลาดอยากจะทำอะไรกับหุ้นตัวนี้ เมื่อข่าวออกมาแล้วตลาดจะตอบรับในรูปแบบใด
4.หุ้นตัวนั้นๆ จะต้องมี pattern ประกอบและทางที่ดีกราฟราคาไม่ควรทำจุดต่ำสุดเพิ่ม กรณีกราฟราคาทำจุดต่ำสุดผมจะพิจารณา แท่งราคาและ RSI ประกอบเพื่อดูแนวโน้มว่าเกิดการ divergence หรือไม่
5.มองแนวต้านและแนวรับตัวหุ้นนั้นๆ เพื่อมองหาแนวรับสำคัญ หากราคาลงมาบริเวณแนวรับสำคัญแล้ว Vol. ดูบางๆแบบนี้สวยรอจังหวะยกตัวเล่นเก็งกำไรได้
6.ผมจะเปลี่ยนแปลงหุ้นใน list ทุกๆไตรมาส เพื่อจะเปลี่ยนกลุ่มหุ้น หากกรณีหุ้นบางตัวผลกำไรออกมาแย่ผมจะลดระดับลงไปจากชุด B ไปเป็นชุด C หรืออาจจะจากชุด C ไปเป็นชุด D ครับ ดังนั้นใครบอกเทคนิคไม่ต้องวิเคราะห์พื้นฐานผมว่าไม่ใช่ มันต้องดูควบคู่กันเพื่อสร้างความมั่นใจกรณีเราผิดทาง
7.ในบางครั้งหุ้นบางตัว pattern กราฟสวยมากๆ ผมจะเล่นเลย ข่าวไรไม่สนใจหากผิดทางหลุด low ก็ขายสิครับ จะถือไปทำไม แต่กรณีนี้ผมจะเล่นในหุ้นที่ผมคิดว่ามันสวยจริงๆ เท่านั้น เพราะผมไม่ได้ถือมันยาว ผมแค่จะเก็งกำไร ผมอยากจะได้เงินเป็นรอบๆ ก็แค่นั้น
8.ผมจะตรวจเช็คหุ้นใน list ทุกวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ หุ้นใน list ผมนี้จะมีทั้งตัวที่มีข่าว ตัวที่ pattern สวยๆ และตัวที่มีคนแนะนำมาซึ่งทุกครั้ง ผมจะคัดเองก่อนเสมอ ไม่ชอบเชื่อใคร เพราะมันคือเงินของผม ผมยอมขาดทุนด้วยตัวผมเองดีกว่า
9.หากจะเล่นรอบควรมอง trend ของกราฟให้ดีก่อน ว่ามันขึ้น ลง หรือ แกว่งตัวออกข้าง เล่นรอบให้เล่นแต่ขาขึ้น อย่าไปเล่นในแนวโน้ม sideway หรือ ซื้อดักขาลง
10.เก็งกำไรราคาขึ้นไปใกล้ๆแนวต้านให้ทยอยขาย อย่าไปขายตรงแนวต้านเป๊ะๆ มันขายยาก หากราคาสามารถผ่านแนวต้านได้อีก ก็ซื้อตามสิครับจะรออยู่ใยเราเก็งกำไรนะครับ ไม่ใช่ถือยาวจะเล่นซื้อไม้เดียวจนสุดทาง ยากครับ !
11.จุดขายก็เช่นกันควรวาง stop loss ให้ต่ำกว่าแนวรับ อย่าไปวางเป๊ะ ๆ เพราะบางทีราคาอาจจะหยุดลงไปแล้วแต่เหลือแรงขายจากรายย่อยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร ขายไปเรื่อยเปื่อยๆ เราสังเกตได้จาก ลักษณะแท่งราคา และ การมอง bid offer รวมถึงปริมาณการซื้อขายครับ
12.ฟังให้มาก แล้วนำมาวิเคราะห์ใครพูดหุ้นอะไร นักวิเคราะห์เชียร์ตัวไหน ให้จดไว้แล้วนำมาวิเคราะห์ กราฟสวยไม่จำเป็นต้องมีข่าวซื้อไปเลยเหตุผลช่างมัน กราฟห่วยแต่มีข่าวดีให้รอจังหวะจากกราฟเพื่อยืนยันอย่ารีบซื้อตาม
13. กรณีราคากลับตัวขึ้นสักพักแล้วอยู่ราคาลงหน้าตาเฉยขายก่อนแล้วค่อยหาเหตุผลทีหลัง แล้วหากราคากลับขึ้นไปก็รอ Break แนวต้านสิครับ ค่อยซื้อเล่นใหม่ แต่กรณีหุ้นแบบนี้ผมจะไม่ค่อยชอบเล่น ผมชอบเล่นหุ้นชัวส์ เอาเงินชัวส์ ไม่ชอบขาซิ่ง ผมไม่ใช่เทพ ไม่ใช่เซียน ผมแค่คนอยากรวยแค่นั้น
14.มั่นใจตัวเองให้มาก และอย่าให้แนวคิดคนอื่นมารบกวนสมาธิคุณ ชอบหุ้นตัวไหนมองแล้วกราฟสวยก็จัดไป ข่าวช่างมันกราฟสวยซะอย่าง ผิดทางก็ขายครับ
15.อ่านให้มากและนำความรู้มาสร้างระบบเทรดให้ตัวเอง คิดค้นจนได้ระบบที่มีเหมาะสมกับแนวทางคุณแล้วคุณจะกำไรครับ
16.เวลาจะเข้าหุ้นสักตัวควรแบ่งไม้ซื้อ โดยปกติผมจะไม่ถัวขาลง มันไม่มีความจำเป็นอะไรทั้งนั้น มีสัญญาณ reversal หรือหลุดแนวรับแท่งราคาผมก็ขายเรียบ
17.วางเกมส์ให้เป็นหุ้นมันมีหลายลักษณะบางตัวกราฟอยู่ล่างๆราคาลงมาสักพักแล้วแบบนี้ซื้อดักโดยมอง pattern ประกอบได้ บางตัวอยู่บนราคาขึ้นไปมากแล้วเล่นเฉพาะตอน Break แนวต้าน หรืออาจจะยอมซื้อตอนย่อหาก Vol. บางลงเรื่อย คนจะเล่นแบบนี้ได้ต้องแม่น ซึ่งผมก็ผิดบ่อย และบางตัวกำลังแกว่งตัวในกรอบแบบนี้ก็เช่นกัน หุ้น sideway อยู่ให้ใช้ pattern เสมอหากแกว่งตัวทำทรง Flag pattern ก็รอ break ครับค่อยเล่นหรือจะลองวางไม้ซื้อตรงแนวรับของ pattern ก้ได้ก็ไม่เสียหาย ปัญหาคือผิดทางขายครับอย่าไปเสียดาย
18.เล่นแล้วไม่กำไรทำยังไงก็ไม่กำไร ทบทวนแล้วพิจารณาตัวเองว่ารู้น้อยไปไหม หรือรู้มากไปไหม จนใช้งานไม่ได้สักอย่าง นี่คือปัญหาหลักครับที่หลายๆคนเจอ
19.ระวังเรื่องหุ้นวัฎจักร เก็งกำไรก็ควรเก็งตามรอบของมัน เช่น ค่าระวางเรือขึ้นก็ไปเล่นกลุ่มเรือเทกอง และใช้วิธีกรองหุ้นจากการแบ่งชุดของหุ้นครับ
20.หุ้นชุด A B C กินเป็นรอบๆได้ ให้ราคาลงแล้วพักก็ได้ก็ยังถือได้หากราคาไม่หลุดแนวรับเดิม แต่หุ้นตัวเล็กชุด D F เกิดสัญญาณ reversal ขายให้เรียบครับ
21. Volume และแท่งราคาต้องสอดคล้องกัน แท่งราคายาว vol ต้องยาว แท่งราคาสั้น vol ต้องสั้น เลือกหุ้นสักตัวมีแค่ 2 อย่างนี้ก็หากินได้หากเข้าใจรูปแบบของมัน
เท่าที่คิดได้ตอนนี้ก็มีแค่นี้ครับไว้จะเขียนเพิ่มเติมอีกครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

สรุปยอดซื้อขายประจำวัน วันศุกร์ ที่ 5 ก.ย. 2557

สรุปยอดซื้อขายประจำวัน
วันศุกร์ ที่ 5 ก.ย. 2557
ต่างชาติ +1,567.97
กองทุน -414.85
โบรคเกอร์ -173.42
รายย่อย -979.70
SET 1,584.32 +4.59 จุด
(+0.29%)Vol. 44,326.05M.
TOP 5
1. EFORL 1.89>(+0.09)
2. TPIPL 18.90>(+1.10)
3. JAS 6.70>(+0.30)
4. TTA 24.40>(+1.10)
5. SEAOIL 16.20>(+1.50)
***TFEX***
**S50U14**
ปิด 1,056.20 จุด
เพิ่มขึ้น +1.30 จุด (+0.12%)

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

ผู้บริหาร DEMCO GUNKUL SPCG SOLAR IFEC เข้าร่วมโรดโชว์กับ BLS เมื่อวาน

ผู้บริหาร DEMCO GUNKUL SPCG SOLAR IFEC เข้าร่วมโรดโชว์กับ BLS เมื่อวาน คาดแผนพลังงานทดแทนที่ภาครัฐสนับสนุนจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นกลุ่มนี้ โดยเราคาดแผนพลังงานทดแทนจากโรงไฟฟ้าขยะ ที่ถูกประกาศเป็นวาระแห่งชาติ อาจมีความชัดเจนต่อแนวนโยบายภายในกลางเดือนนี้ (เช่น การยกเว้นภาษี,เพิ่ม Adder ฯลฯ) หลังปลัดกระทรวงพลังงานได้ยื่นผลการศึกษาไปแล้ว หุ้นที่เชื่อมโยงโรงไฟฟ้าขยะได้แก่ IFEC (มีโรงไฟฟ้าขยะอยู่แล้ว) BWG (แยกขยะและอัด ขายโรงไฟฟ้า) GENCO (เริ่มสร้างโรงไฟฟ้า) RATCH (กำลังลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขยะ) DEMCO (กำลังร่วมทุนกับสเปนทำโรงไฟฟ้าขยะ)
(+) DEMCO (ราคาเป้าหมายเฉลี่ย Consensus 16.5 บ. สูงสุด 18 บ.) มุมมองบวกจาก Backlog ที่รอรับรู้ในครึ่งหลังราว 2.9 พันล้านบาท หนุนให้รายได้ทั้งปีอยู่ที่ 6 พันล้านบาท และอนาคตยังมีโอกาสได้ งานสร้างโรงไฟฟ้าโซล่ารเพิ่มขึ้น, งานสายส่งไฟฟ้าจาก EGAT บวกกับ งานปักเสาส่งสัญญาณ 3-4G เพิ่ม, มีรายได้จากการเข้าถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานลมรับร็เต็มปี และคาดมีกำไรจากการนำ WEH เข้าตลาดปีหน้า ซึ่ง DEMCO ถืออยู่ราว 4%
(+) IFEC คาดราคาหุ้นมีแนวโน้มขึ้นต่ออีก ปัจจัยหนุนจะมาจาก 1) ได้เซ็น MOU กับพันธมิตรต่างประเทศ เพื่อขยายกิจการโรงไฟฟ้าเป็นที่เรียบร้อย (ตลาดยังไม่สะท้อนข่าวนี้) 2) ภายในกลางเดือนนี้คาดมีความชัดเจนเรื่องนโยบายสนับสนุนโรงไฟฟ้าขยะจากรัฐบาล (คาดมีโอกาสเพิ่ม adder เพื่อจูงใจการลงทุน) 3) ปิดดีลซื้อโซล่าร์ฟาร์ม 20 MW เพิ่มแล้ว ทำให้สิ้นปีกำลังผลิตโซล่าร์เพิ่มเป็น 30 MW ตามเป้า

หุ้นมีข่าว
(+) SCB ข่าวขายธุรกิจประกันชีวิต 25% ให้ญี่ปุ่นมูลค่าราว $600 ล้าน / เราคาดถ้าขายจริงจะมีกำไรพิเศษราว 1.5 หมื่นล้านบาท (4.9บ./หุ้น) อิงราคาขาย 1,154 บ. ($600 ล้าน) จากมูลค่าทางบัญชีที่ SCB ถืออยู่ 197 บ./หุ้น
(+) BANPU LANNA EARTH จีนเร่งนำเข้าถ่านหิน ผลิตไฟฟ้า และ สต็อกสำหรับฤดูหนาว (ปัจจัยฤดูกาลหนุนราคาหุ้น)
(+) TUF ราคาทูน่าเดือน สค.อยู่ที่ $1600/ตัน ลดลงจาก เดือนก่อนที่ $1800 เรามองว่าหนุนมาร์จิ้น OEM ของ TUF ระยะสั้น ส่วนระยะยาวยังคงคาดว่าราคาทูน่ายังอยู่ในระดับสูงเฉลี่ย $1400-1600 ส่งผลให้มาร์จิ้น branded ทูน่าสูงขึ้น และคาด ดีต่อเนื่องถึงปีหน้าแนะนำ ซื้อราคาเป้าหมาย 82 บาท
(+) ILINK เผยมีโอกาสได้งาน จาก TOT มูลค่าราว 1.2 พันล้านบาท และเตรียมนำ อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม เข้าตลาด MAI ภายในปี 2559 (ยื่นไฟล์ลิ่งปลายปีหน้า) ส่วน ILINK ย้ายเข้า SET ต้นปี-กลางปี 2558
(-) BLAND ข่าวไม่สามารถรับรู้กำไรพิเศษจากการขายIMPACT growth REIT (BLAND) (IPO กรอบราคา 10.3-10.6 บ. เปิดจอง 8-12 กย.นี้)
(+) DCON เลื่อนรับรู้กำไรคอนโดเข้ามาเป็นปีนี้แทน คาดกำไรเพิ่ม 100 ลบ. /แนะนำซื้อดักปันผลปีนี้ คาดที่ 1.5 บ.
(+) ปันผลแบงก์ XD 5 กย. SCB@1.5 / 8 กย. BAY@0.40 บ. / 9 กย. BBL@2 KBANK@0.50 KKP@0.50
(+) EGCO ข่าว คตร.ดำเนินการตรวจสอบ โครงการ IPP 5,000 MW ที่ Gulf energy ปะมูลได้ก่อนหน้านี้ โดยเรกูเลเตอร์จะยื่นให คตร.พิจาณากลางเดือน กย.นี้ / หากมีการล้มประมูล และเปิดประมูลใหม่เป็นบวกต่อ EGCO GLOW
(+) SAMART (ขายกล่อง) CCET (ผลิตกล่อง) แจกคูปองทีวีดิจิตอล กย.นี้

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

แรงจนไม่กล้าไล่

แรงจนไม่กล้าไล่

โดย สุนันท์ ศรีจันทรา 4 กันยายน 2557 20:23 น.

แรงจนไม่กล้าไล่
ตลาดวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตลอดชั่วโมงการซื้อขาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ เมื่อวันกอนดีดตัวแรงเกินไป ทำให้เกิดแรงจูงใจในการขายทำกำไร และคนซื้อก็ไม่กล้าไล่ราคามากนัก จึงขาดแรงผลักดันที่จะขยับเดินหน้าต่อ จนเกิดการปรับฐานเบาๆ
ดัชนีปิดที่1579.73 จุด ลดลง3.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 52,895 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,011 ล้านบาท
การปปรับฐานเบาะๆที่เกิดขึ้น เป็นการลดความร้อนแรงของตลาด เพาะวิ่งมาเร็วและแรงเกินไป โดยไม่มีปัจจัยสนับสนุน นอกจากความเชื่อมั่นในแนวโน้มอนาคต คาดหวังการแก้ปัญหาเศรษฐกิจรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำใมห้กิดการไล่ซื้อดักเก็งกำไร แต่นักลงทุนที่หวั่นไหวในความสูง เทขายทำกำไรตลอด เพราะไม่เชื่อว่า ดัชนีจะตีฝ่าม้วนเดียว ทะลุ1600 จุดไปได้ แต่อาจเกิดการปรับฐานแถว1600จุดก็ได้
พรุ่งนี้ส่งท้ายสัปดาห์ และยังไม่มีปัจจัยในเชิงบวกหรือลบชี้นำ นักลงทุนก็ยังติดเครื่องเก็งกำไรกันต่อ แต่จะเลือกตัว และระมดระวังตัวเล่นมากขึ้น เพราะแม้ไม่มีสัญญาณร้าย แต่ระดับราคาห้นก็เสี่ยงการปับฐานได้ ถ้ามีปัจจัยลบเหนือความคาดหมายเข้ามา จึงไม่ประมาท โดยหากหุ้นขึ้นแรง จะชิงขาย ทำให้ตลาดส่งท้ายสัปดาห์ชะลอความคึกคักลง

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

ทันหุ้น -- 05/09/57

CRANEเข็นลูกเข้าตลาดหุ้นงานปิโตรเคมี-โรงกลั่นล้นมือ
CRANE โชว์แนวคิดแตกไลน์ธุรกิจ หวังสร้างรายได้โตยั่งยืน พร้อมโหนกระแสไอพีโอร้อนแรงเล็งเข็นลูกเข้าตลาดหุ้น ด้าน "ชำนาญ งามพจนวงศ์" เชื่อไตรมาส 3/2557 งบพุ่งหลังไฮซีซันหนุน ส่งทั้งปี 2557 รายได้เข้าเป้า 1.4 พันล้านบาท แถมรัฐบาลเร่งเบิกจ่าย ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์หนุนรายใหญ่แซงคิวเช่าเครื่องจักรกลหนักเพิ่ม ดันงบปี 2558 กระโดดต้าน 7.00 บาท

(ทันหุ้น -- 05/09/57)

หุ้นเพิ่มทุนของ ERW
เริ่มซื้อขายวันที่ 8 กันยายน 2557

จำนวนหุ้นเพิ่มทุน : 1,829,210 หุ้น

จัดสรรรให้ กรรมการและพนักงานของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อยตามโครงการ
ESOP 3 ส่วนที่ 1 จำนวน 480,000 หุ้น
ราคาเสนอขาย (บาท/หุ้น) : 2.90

ESOP 3 ส่วนที่ 2 จำนวน 175,000 หุ้น
ราคาเสนอขาย (บาท/หุ้น) : 3.00

ESOP 3 ส่วนที่ 3 จำนวน 1,174,210 หุ้น
ราคาเสนอขาย (บาท/หุ้น) : 3.10

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,069.58 จุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:
ดาวโจนส์ปิดลบ 8.70 จุด จากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งส่งผลให้ตลาดอ่อนแรงลง หลังจากที่เปิดตลาดพุ่งขึ้นขานรับการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,069.58 จุด ลดลง 8.70 จุด หรือ -0.05% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,562.29 จุด ลดลง 10.28 จุด หรือ -0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,997.65 จุด ลดลง 3.07 จุด หรือ -0.15%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวขึ้นหลังจากอีซีบ ีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานที่อีซีบีเรียกเก็บจากเงินกู้ที่ปล่อยให้แก่สถาบันการเงิน (Main refinancing operation) ลงสู่ระดับ 0.05% และปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) ลงสู่ระดับ -0.2%

ด้านนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้กล่าวในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า อีซีบียังได้ตัดสินใจที่จะเริ่มซื้อสินทรัพย์ภาคเอกชนที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งได้แก่ ตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds)

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุน เทขายหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกร่วงลงกว่า 1 ดอลลาร์ โดยหุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ต่างก็ปรับตัวลง 0.8%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวง แรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลด้านแรงงานที่อ่อนแอซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 220,000 ตำแหน่ง และน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 212,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห ์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 ส.ค. เพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 302,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 300,000 ราย

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

สรุปข่าวตลาดเงิน-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2557

สรุปข่าวตลาดเงิน-ตลาดทุน หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2557

แนวโน้มสภาพคล่องตึงขึ้นผู้ออมเฮเตรียมชอปดบ.สูง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินสภาพคล่องช่วงที่ 5 เดือนสุดท้ายของปี แนวโน้มสภาพคล่องตึงตัวขึ้น จากความต้องการเงินทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งภาครัฐ-เอกชน ขณะที่ผู้ออมเตรียมเฮชอปผลิตภัณฑ์ดอกเบี้ยสูง

MEรุ่งเงินฝากโต50-60%รับอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งคึก
ME by TMB คึกโหนกระแสอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งฮิต มียอดเติบโตต่อเนื่องกว่า 20% ต่อปี โดยเฉพาะหลังแคมเปญ "ปลุกเงิน" มีผลตอบรับดี เผยแค่ก.ค.เดือนเดียวมียอดเงินฝากเพิ่ม 60% คาดสิ้นปีเพิ่ม 50-60% ตามเป้าหมาย

ธ.ก.ส.เด้งรับนโยบายคสช.อัด1.5หมื่นล.อุ้มยางครบวงจร
ธ.ก.ส.อนุมัติวงเงิน 15,000 ล้านบาท เป็นทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยางและสนับสนุนสินเชื่อแปรรูปยางพาราให้แก่สหกรณ์ 723 แห่งทั่วประเทศ สนับสนุนเครือข่ายสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งเป็นมืออาชีพ 24 แห่ง เป็นศูนย์รวบรวมและแปรรูปยางพาราเพื่อการส่งออก พร้อมทบทวนขยายเวลาชำระหนี้ให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาราคายางตกต่ำ

TRCลุ้นประมูลท่อก๊าซเฟส2คาดปีนี้รายได้โดดแตะ4-5พันล.
ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น เดินหน้ารุกขยายงานต่อเนื่อง มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโดดดันผลงานทั้งปีแตะ 4-5 พันล้านบาท หลังโชว์กำไรครึ่งปีแรกเติบโตก้าวกระโดด ลุ้นผลประมูลงานงานวางท่อก๊าซเส้นที่ 4 หลังคว้างานก่อสร้างโรงงานไบโอดีเซลเฟส 2 มูลค่ากว่า 1,200-1,700 ล้านบาทสำเร็จ เชื่อหลังมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ จะเร่งเดินหน้าการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ ผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ส่งผลดีต่อธุรกิจ

SALEEคาดครึ่งปีหลังธุรกิจเป็นขาขึ้นอานิสงส์ศก.ฟื้น-ออเดอร์พุ่งดันปีนี้โต25-30%
สาลี่อุตสาหกรรม คาดผลงานครึ่งปีหลังขยายตัวดีกว่าครึ่งปีแรก เหตุคำสั่งซื้อจากลูกค้าเก่า-ใหม่เข้ามาเพียบ หลังทางการประกาศเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ "สาทิส ตัตวธร" วางเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตเฉลี่ย 25-30% อานิสงส์ 2 ธุรกิจของ "สาลี่อุตสาหกรรม" และ "สาลี่ พริ้นท์ติ้ง" ยังขยายตัวได้อย่างมีเสถียรภาพดีทั้งคู่

AIT ผนึก First Cambodia ร่วมทำตลาดรับไอซีทีโตในเวียดนาม
"แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี" เดินเกมรุกตลาดกัมพูชาเต็มสูบ เซ็น MOU กับ First Cambodia ร่วมพัฒนาตลาดขยายขีดความสามารถการแข่งขัน ขยายฐานลูกค้ารองรับงานจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ลงทุนโครงสร้างด้านไอซีที ที่มีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดด

ตลท.จี้ADAMแจงข้อมูลใน8ก.ย.นี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จี้ "อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น" แจงข้อมูลภายใน 8 ก.ย.นี้ กรณีบริษัทเสนอวาระเพิ่มทุนต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อรองรับการแปลงสภาพหุ้นกู้และเสนอขาย PP เหตุสัญญาการเสนอขายหุ้นกู้ระหว่าง AO Fund กับ ADAM อาจไม่มีผลผูกพันตามสัญญา

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

สรุปข่าวหุ้น-การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2557

สรุปข่าวหุ้น-การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2557

น้ำตาลครบุรีรับ'รายได้-กำไร'สะดุด หวังปีหน้าเดินเครื่องโรงไฟฟ้าหลังเซ็นสัญญา
เหตุเลื่อนขายไฟฟ้า ทำสูญกำไร 120 ล้านบาทและรายได้ 300 ล้านบาท
น้ำตาลครบุรีรับรายได้-กำไรสุทธิปีนี้เท่าปีที่แล้ว เหตุเลื่อนขายไฟจากโครงการโรงไฟฟ้าไปปีหน้า ทำสูญรายได้ 300 ล้านบาทและกำไร 120 ล้านบาท ขณะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับลงลงหวังสินค้าล้นตลาด คาดราคาน้ำมันถึงจุดต่ำสุดเดือน ก.ย. นี้ ระบุ "กลุ่มมิตซุย" ใช้สิทธิแปลงรอแรนท์ ดันสัดส่วนถือหุ้นเพิ่มเป็น 16.7%

'คราวน์'รับอานิสงส์คูปองดิจิทัลดันยอด
คราวน์ เทค แอดวานซ์ แจงอานิสงส์แจกคูปองทีวีดิจิทัล ส่งผลให้ยอดขายเติบโตดี คาดปีนี้เซ็ท ท็อป บล็อกซ์ 2 ล้านเครื่อง ขณะที่ราคาหุ้นแผ่วหลังทำนิวไฮ

สรุปข่าวหุ้น-การเงิน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2557

น้ำตาลครบุรีรับ'รายได้-กำไร'สะดุด หวังปีหน้าเดินเครื่องโรงไฟฟ้าหลังเซ็นสัญญา
เหตุเลื่อนขายไฟฟ้า ทำสูญกำไร 120 ล้านบาทและรายได้ 300 ล้านบาท
น้ำตาลครบุรีรับรายได้-กำไรสุทธิปีนี้เท่าปีที่แล้ว เหตุเลื่อนขายไฟจากโครงการโรงไฟฟ้าไปปีหน้า ทำสูญรายได้ 300 ล้านบาทและกำไร 120 ล้านบาท ขณะที่ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับลงลงหวังสินค้าล้นตลาด คาดราคาน้ำมันถึงจุดต่ำสุดเดือน ก.ย. นี้ ระบุ "กลุ่มมิตซุย" ใช้สิทธิแปลงรอแรนท์ ดันสัดส่วนถือหุ้นเพิ่มเป็น 16.7%

'คราวน์'รับอานิสงส์คูปองดิจิทัลดันยอด
คราวน์ เทค แอดวานซ์ แจงอานิสงส์แจกคูปองทีวีดิจิทัล ส่งผลให้ยอดขายเติบโตดี คาดปีนี้เซ็ท ท็อป บล็อกซ์ 2 ล้านเครื่อง

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

IRPCผลงานครึ่งหลังเด้ง หุ้นแลกการ์ดเป้า4.20บ.

IRPCผลงานครึ่งหลังเด้ง หุ้นแลกการ์ดเป้า4.20บ.

ข่าวหุ้น

"ไออาร์พีซี" บวกแรงสวนตลาด ราคาหุ้นในกระดานต่ำกว่าบุ๊คแวลู 3.61 บาท วงการเงินชี้เป็นหุ้นแลกการ์ด คาดงบครึ่งปีหลังฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ขานรับโครงการเดลต้า แนะนำ "เก็งกำไร" ให้ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า กรณีที่ราคาหุ้นของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ปรับเพิ่มขึ้นแรงในช่วงวานนี้ (4 ก.ย.) เป็นเพราะหุ้น IRPC ในปัจจุบันยังคงแลกการ์ดเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ หุ้น IRPC ยังมีแนวโน้มที่จะทำกำไรทยอยฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงอนาคต กำหนดคำแนะนำ “เก็งกำไร” ให้ราคาเป้าหมาย 4.20 บาท

ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้คาดแนวโน้มกำไรในงวดครึ่งหลังปี 2557 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดครึ่งปีแรก ซึ่งมาจากโครงการ Delta Program ที่คาดจะเริ่มเห็นผลประโยชน์เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก และกำไรจากการทำ Hedging รวมถึงกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน

ดังนั้น ส่งผลให้แนวโน้มกำไรทั้งปี 2557 ยังเห็นการเติบโต 60% เมื่อเทียบกับงวดปี 2556 และจะโดดเด่นต่อเนื่องในปี 2558 ซึ่งสูงถึง 207% เมื่อเทียบรายปี หลังจากโครงการ UHV แล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม GIM (Gross Integrated Margin) ให้กับ IRPC ขั้นต่ำราว 2-3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้ทำการปรับลดประมาณการกำไรทั้งปี 2557 เพื่อสะท้อนกำไรงวดครึ่งปีแรกที่ออกมาต่ำกว่าคาด โดยจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,322 ล้านบาท มี EPS ที่ 0.07 บาท และมีราคาเป้าหมายปี 2557 อยู่ที่ 3.80 บาท ปรับลดลงจากที่เดิมที่ประเมินกำไรสุทธิ 2,626 ล้านบาท มี EPS ที่ 0.13 บาท มีราคาเป้าหมาย 4.07 บาท

โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เพราะเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ได้สะท้อนปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นไปในระดับหนึ่งแล้ว จึงอยากให้มองภาพในระยะยาว ที่แนวโน้มกำไรมีศักยภาพเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากแผนลงทุนที่มีอยู่และโครงการลงทุนใหม่

สำหรับความเคลื่อนไหวราคาหุ้น IRPC ในช่วงวานนี้ ได้ทำราคาเปิดที่ 3.42 บาท สูงกว่าราคาปิดก่อนหน้าที่ 3.38 บาท จากนั้นราคาหุ้น IRPC ได้ทยอยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำราคาสูงสุดในช่วงภาคเช้าที่ 3.54 บาท พร้อมกับปิดภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 3.50 บาท

ส่วนในช่วงภาคบ่ายราคาทำราคาเปิดที่ 3.50 บาท หลังนั้นราคาหุ้น IRPC ได้ทยอยเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และขยับขึ้นไปทำจุดสูงสุดของวันที่ 3.58 บาท ซึ่งถือเป็นระดับนิวไฮภายในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาด ได้เริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมากดดันให้หุ้นปรับลดลงและปิดการซื้อขายอยู่ที่ 3.50 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือคิดเป็น 3.55% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 912 ล้านบาท

ขณะที่การสำรวจข้อมูลทางการเงินของ IRPC พบว่า ในปัจจุบันหุ้น IRPC มีบุ๊คแวลูอยู่ที่ 3.61 บาท ดังนั้น เมื่อเทียบกับราคาปิดล่าสุดที่ 3.50 บาท เท่ากับยังมีอัพไซด์จำนวน 3% ส่วนราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์กำหนด 4.20 บาท จะคิดเป็นอัพไซด์จำนวน 20%

ด้านผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/57 ที่ผ่านมา IRPC มีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 178 ล้านบาท ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกทางบริษัทมีรายได้รวมจำนวน 149,429 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 521 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดปี 2556 มีรายได้รวม 296,554 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 826 ล้านบาท

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

TRCฟุ้งผลงานQ3 แจ่ม ยันรายได้ปีนี้5พันล้าน

TRCฟุ้งผลงานQ3 แจ่ม
ยันรายได้ปีนี้5พันล้าน

ข่าวหุ้น

"ทีอาร์ซี" คาดผลงานไตรมาส 3 สวย เหตุรับรู้รายได้จากโครงการท่อก๊าซสระบุรี-นครราชสีมา คงเป้ารายได้ปีนี้ 4-5 พันล้านบาท โชว์แบ็กล็อกรอบุ๊คกว่า 4.8 พันล้านบาท พร้อมลุ้นผลประมูลงานใหม่มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาท

นายภาษิต ลี้สกุล กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการไตรมาสที่ 3/57 จะเติบโตกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสที่ 2/57 เนื่องจากบริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการท่อก๊าซธรรมชาติสระบุรี-นครราชสีมา มูลค่างานทั้งหมดประมาณ 1,639 ล้านบาท และโครงการอื่นๆ

โดยภาพรวมการดำเนินงานในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ระดับ 4,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (backlog) จำนวน 4,800 ล้านบาท จะสามารถทยอยรับรู้ภายในปีประมาณ 4,500 ล้านบาท

ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2558 มีโอกาสที่จะเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 4,000-5,000 ล้านบาทแน่นอน หากงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐเริ่มมีการประมูล โดยในเบื้องต้น ได้แก่ งานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าวประมาณ 1,000 ล้านบาท

“backlog ที่มีอยู่ขณะนี้ถือว่าสูงสุดเท่าที่เรามีมา ซึ่งมีโอกาสที่จะเพิ่มอีกเนื่องจากจะมีการประมูลงานใหม่ๆ ทั้งในประเทศและที่ต่างประเทศ” นายภาษิต กล่าว

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท เช่น งานวางท่อก๊าซเส้นที่ 4 ระยอง-สระบุรี มูลค่าโครงการ 500-700 ล้าน โดยบริษัทจะเป็นการเข้าไปแก้ไขงานของผู้รับเหมาเดิมที่ไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามที่กำหนด และอยู่ระหว่างการติดตามเพื่อเข้าประมูลงานซ่อมท่อก๊าซเส้นที่ 1 ของ PTT มูลค่าค่างานรวม 3 เฟส จำนวน 7,000-8,000 ล้านบาท รวมถึงงานปรับปรุงเตาเผาของบริษัท ทรานส์ ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท

สำหรับงานในต่างประเทศ บริษัทได้ยื่นประมูลงานที่ประเทศโอมาน ซึ่งเป็นงานวางท่อของบริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท โดยจะเป็นระยะเวลาสัญญา 5 ปี และงานวางระบบท่อของบริษัทน้ำมันแห่งชาติของโอมาน มูลค่า 1,000 ล้านบาท

นายภาษิต กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการพลังงานทดแทนด้านไบโอดีเซลที่ประเทศกัมพูชา โดยบริษัทมองว่าที่กัมพูชามีวัตถุดิบประเภทอ้อยอยู่มาก สำหรับโครงการก่อสร้างเขื่อนพลังงานน้ำตรึงนัมขนาดกำลัง 75-100 เมกะวัตต์ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งบริษัทได้สิทธิในการก่อสร้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามจะต้องดูรายละเอียดของสัญญาและความชัดเจนในการก่อสร้าง

ด้านนายสิทธิ์ชัย เจริญสกุลไชย ผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการและการลงทุนบริหาร บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เปิดเผยว่า มูลค่างานทั้งหมดบริษัทเตรียมเข้าประมูลและได้ยื่นประมูลไปแล้วรวมจำนวน 15,000 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนงานในต่างประเทศที่โอมานเช่นในส่วนของงานวางท่อของ PTTEP และ บริษัทน้ำมันแห่งชาติของโอมาน บริษัทคาดว่าจะได้รับงานทั้งหมดประมาณ 50% ของมูลค่างานที่จะเข้าประมูลทั้งหมด

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

‘เสี่ยตึ๋ง’เร่งปิดดีลLHBANK

‘เสี่ยตึ๋ง’เร่งปิดดีลLHBANK

ข่าวหุ้น

ผู้ถือหุ้นใหญ่แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป หรือ LHBANK เตรียมขออนุมัติแบงก์ชาติ-คลังขายหุ้นให้ต่างชาติ ภายในปลายปีนี้ ราคาเจรจาระหว่าง 2-2.5 เท่าของบุ๊คแวลู ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 โต 37% เมื่อเทียบกับปีก่อน

แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาทางการเงิน เผยว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป หรือ LHBANK เตรียมขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง เพื่อขายหุ้นให้กับพันธมิตรรายใหม่ภายในปลายปีนี้

“ตอนนี้บริษัทกำลังเร่งปิดดีลการขายหุ้นอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่ชะลอการเจรจามาได้ระยะหนึ่ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล”แหล่งข่าว กล่าว

สำหรับพันธมิตรที่เจรจาขณะนี้มีอยู่ประมาณ 3-4 แห่ง เป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่จากประเทศมาเลเซีย จีน และญี่ปุ่น ซึ่งต้องการเข้ามาใช้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการเงินในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ LHBANK เองก็ต้องการพันธมิตรเพื่อขึ้นเป็นท็อป 3 ของกลุ่มสถาบันการเงิน

ส่วนราคาที่เจรจากันอยู่ระหว่าง 2.0-2.50 เท่าของมูลค่าทางบัญชี (1.19 บาท) ของ LHBANK หรือประมาณ 2.38-2.97 บาท ซึ่งเป็นราคาพรีเมียมใกล้เคียงกับราคาขายหุ้นไทยธนาคารที่เป็นแบงก์ขนาดเล็ก ขณะที่ก่อนหน้านี้ ผู้ถือหุ้นใหญ่ระบุว่าสาเหตุที่ขาย LHBANK เพราะต้องการเติบโตเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ติดอันดับ 1-3 แต่ปัจจุบันธนาคารมีสินทรัพย์ประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท

เมื่อเทียบกับแบงก์ใหญ่ที่มีสินทรัพย์ประมาณ 2-3 ล้านล้านบาท ถือว่ายังห่างกันมาก ดังนั้นจึงต้องหาพันธมิตรใหม่เข้ามาเสริม

ด้านนักวิเคราะห์มองว่า LHBANK อยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้ทัดเทียมกับธนาคารขนาดกลาง ซึ่งในปัจจุบันจำนวนสาขาและการปรับเปลี่ยนสัดส่วนสินเชื่อเริ่มขึ้นมาใกล้เคียง พร้อมประกาศชัดเจนเกี่ยวกับความต้องการพันธมิตรเพื่อมาช่วยหนุนธุรกิจธนาคารในด้านอื่นๆ ในระหว่างนี้อาจมีประเด็น M&A ที่พอหนุนราคาหุ้นได้

ทั้งนี้คาดว่า LHBANK จะมีกำไรสุทธิใน 3Q14 อยู่ที่ 228 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 37%Y-Y โดยคาด 1.การลงทุนในประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นซึ่งส่งผลดีต่อกลยุทธ์ของธนาคารที่จะเน้นลูกค้าในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจ 2.คาดต้นทุนเงินฝากลดลงจากไตรมาสก่อนราว 0.02-0.05% ภายหลังธนาคารเร่งเพิ่มจำนวนเงินฝากในกลุ่ม

ในปี 2015 ประมาณการกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1087 ล้านบาท หรือ +13.4% จากปี 2014 โดยคาดว่าสินเชื่อ 15% Y-Y, Credit Cost ที่ 0.50%, NIM ที่ 2.10%, และ Cost to income ratio ที่ 51% ผู้บริหารกล่าวว่า ทิศทางธุรกิจในอีกสองถึงสามปีข้างหน้าจะตั้งเป้าไปที่การเพิ่ม Net Interest Margin ให้มากขึ้น โดยการเร่งขยายตัวสินเชื่อจำพวก SME และ Retail ในปีต่อไป

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ใน LHBANK ได้แก่ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ที่ถืออยู่ 4,340,567,920 หุ้น คิดเป็น 34.12% QH ถือหุ้นอยู่ 2,725,472,880 หุ้น คิดเป็น 21.43% และ น.ส.เพียงใจ หาญพาณิชย์ ถืออยู่ 2,104,605,029 หุ้น คิดเป็น 16.55%

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

สังคมข่าวหุ้น

*** สังคมข่าวหุ้น ***

* ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,579.73 จุด ติดลบ 3.54 จุด มูลค่าซื้อขาย 52,895 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศ กระหน่ำขายสุทธิกว่า 2,500 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิกว่า 1,000 ล้านบาท สัปดาห์นี้แนวต้าน 1,580 จุด มีโอกาสผ่านไปได้ไม่ยาก.!?

* หุ้น BEC กลายเป็นหุ้นต้องห้ามไปโดยปริยาย หลังเปิดศึกกับ กสทช. กรณีการเปลี่ยนช่อง 3 อนาล็อกไปสู่ช่อง 3 ดิจิตอลที่ฝ่ายช่อง 3 หัวชนฝาไม่ยอมเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิตอล..แต่ล่าสุดช่อง 3 ดูเหมือนถูกกดดันอย่างหนัก เพื่อให้ “ออกอากาศคู่ขนาน” เช่นเดียวกับ “ช่อง 7” และ “โมเดิร์นไนท์ทีวี” และหากต้องออกคู่ขนานจริงๆ ต้นทุนต้องเพิ่มอีก 300-500 ล้านบาทเลยทีเดียว ทำให้มูลค่าพื้นฐานหุ้น BEC อยู่แค่เพียง 42 บาท แต่ราคาหุ้น BEC ที่ซื้อขายในกระดานอยู่ที่ 45.75 บาท เท่ากับว่า “สูงเกินพื้นฐาน” นั่นหมายถึงความเสี่ยงกำลังมาเยือนชัดเจน

* หุ้น IVL แรงเว่อร์...ขานรับราคาเป้าหมายใหม่ 45 บาท..อัยยะอัพไซด์กว่า 40% เชียวนะเนี่ย.! แต่สปีดต้นแรงแบบนี้มีความเสี่ยงแผ่วปลายได้เช่นกัน เพราะที่ผ่านมา พอราคาหุ้นขึ้นขึ้นไป 10-15% ราคาก็เริ่มอืดแล้ว..ดังนั้นพึงระวังกันไว้ให้ดี

* หุ้น IRPC พิมพ์นิยมรายย่อย จู่ๆราคาพุ่งพรวดขึ้นมา ชนิดแทบไม่ทันตั้งตัว..บ้างก็บ่นออกไม่ทัน...บ้างก็กังวลจะเข้าซื้อดีมั้ย..จากเฝ้าดูพฤติกรรมหุ้นตัวนี้บอกตรงๆ ว่าไปได้ไม่ไกลนัก เพราะอย่าลืมว่าหุ้น IRPC มีคนติดกันทุกระดับราคา แน่นอนว่าขึ้นมาแรงแบบนี้เสี่ยงที่จะถูกขายทำกำไรมีสูงทีเดียว..!

* หุ้น BMCL ปรับขึ้นอีกครั้งมาอยู่ที่ 1.85 บาท ด้วยแรงกำไรล่วงหน้าว่าปี 2560 จะมีกำไรเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท พ่วงด้วยราคาเป้าหมาย 2 บาท เท่ากับว่าเก็งกำไรล่วงหน้าถึง 2 ปีเชียวนะครับ...มันจะไกลไปเปล่าเนี่ย

* หุ้น BLAND จอดไม่ต้องแจวซะแล้ว หลังเก็งกำไรเรื่องบันทึกรายได้ จากการขายสินทรัพย์เข้าIMPACT Growth REIT มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท แต่พอเปิดตัว REIT ดังกล่าว ราคาหุ้นไม่ไปไหนเลย...เอหรือว่านักลงทุนเตรียมเงินไว้ซื้อ IMPACT Growth REIT หรือเปล่า..!? เพราะผลตอบแทนการลงทุนใน REIT เฉลี่ย 6-7% เลยเชียวนะ

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

เรื่องของ BJC!! โดย อินเด็กซ์ 51

เรื่องของ BJC!! โดย อินเด็กซ์ 51

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ก.ย.57 ปิดที่ 1,579.73 จุด ลดลง 3.54 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 52,895.23 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด KTB ปิด 23.90 บาท บวก 0.10 บาท, KBANK ปิด 236 บาท บวก 6 บาท, SAWAD ปิด 22 บาท บวก 0.10 บาท, BANPU ปิด 34.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงและ PTT ปิด 331 บาท บวก 4 บาท

งาน opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน ที่ปกติแล้วจะเป็นงานที่ให้ผู้บริหารมาชี้แจงแจ้งข้อมูล ทิศทางและโอกาสทางธุรกิจให้นักลงทุน นักวิเคราะห์นำข้อมูลข้อเท็จจริงจากผู้บริหารไปประเมินวิเคราะห์ ข้อดีข้อเสียแนะนำนักลงทุนให้ประกอบการตัดสินใจลงทุน ขณะที่สื่อมวลชนก็ได้นำข้อมูลไปเผยแพร่ ซึ่งในส่วนของผู้บริหารก็จะใช้โอกาสนี้ในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนมั่นใจในตัวบริษัท

แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) งานนี้ไม่รู้เป็นอะไร!! กลับออกอาการแปลกๆ หลังเผยแผนการเข้าซื้อห้างเมโทร เวียดนาม มูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท และราคาหุ้นก็ร่วงเอา...ร่วงเอา

แทนที่ผู้บริหารอย่าง “อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” กรรมการผู้จัดการใหญ่ จะใช้งานนี้ออกมาเรียกความมั่นใจนักลงทุน แต่กลับส่งผู้บริหารที่เป็นระดับรองผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ ออกมาให้ข้อมูลตามปกติ ท่ามกลางความสนใจของหมู่มวลนักลงทุน นักวิเคราะห์และนักข่าวที่อยากจะขอคำยืนยันชัดๆถึงผลดีผลเสียจากการเข้าซื้อกิจการต่างแดนครั้งนี้

เพราะบริษัทต้องเพิ่มทุนเอาเงินผู้ถือหุ้นเดิมไปจ่ายค่าซื้อกิจการ หากเงินเพิ่มทุนยังไม่พอจ่าย ก็อาจจำเป็นต้องกู้เงินมาส่วนหนึ่งด้วย!!

การรุกออกไปขยายการลงทุนขนาดใหญ่ ที่หวังผลระยะยาวเช่นนี้ รูปแบบวิธีการจัดการเรื่องเงินทุนที่บริษัทใช้อยู่ ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเลวร้าย หลายบริษัทก็ทำกัน หากมั่นใจว่าการทุ่มซื้อกิจการครั้งนี้ บวกลบคูณหารแล้ว “ได้มากกว่าเสีย” แม้ต้องใช้เวลาพิสูจน์

แต่ในสถานการณ์เฉพาะหน้าระยะสั้นนี้ กับปัญหาความตื่นตระหนกหรือความมั่นใจที่ถดถอยของผู้ถือหุ้นที่เกิดขึ้นท่ามกลางราคาหุ้นที่ขยับถอยหลังลงคลอง การยืนหยัดสร้างความเชื่อมั่นจากผู้บริหารหรือแม้กระทั่งผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทอย่างกลุ่มทีซีซี ของ “อภิมหาเศรษฐี” เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นเรื่องจำเป็นยิ่ง!!

แต่ในงาน opportunity Day เมื่อ 4 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นอกจากจะให้ผู้บริหาร ระดับเบอร์รองๆมาให้ข้อมูลแล้ว ยังแจ้งข่าวให้ผู้ที่อยู่ในงานทราบว่า “บิ๊กบอส” “อัศวิน” จะมาพบและตอบข้อซักถามด้วยในช่วงท้ายการให้ข้อมูล แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่เห็นแม้เงา มีแจ้งเพียงว่า “อัศวิน” มาอยู่บนตึกนี้แล้ว สุดท้ายผู้บริหารที่อาสาไปตาม ก็หายเข้ากลีบเมฆปล่อยให้พีอาร์มารับหน้าเสื่อแจงว่า คนไปตาม มีประชุมด่วนนนนนน!!

ปกติ “อัศวิน” เป็นผู้บริหารที่เก่ง อัธยาศัยดีเป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักข่าว นักลงทุนแฟนคลับ BJC แต่ไม่รู้งานนี้เกิดอะไรขึ้น ถึง “เสียสูญ” ได้เพียงนี้....!! แล้วอย่างนี้ นักลงทุนจะสูญเสียและเสียขวัญไปถึงไหน!!

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2557

สรุปข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 05 ก.ย. 2557

พีดีเฮ้าส์อัดแคมเปญฟื้นยอด DRT หั่นเป้ารายได้ 4.4 พันล.
รับสร้างบ้านไตรมาส 3 แข่งตัดราคา "พีดีเฮ้าส์" ปรับแผน รุกต่างจังหวัดเพิ่ม อัดแคมเปญให้ส่วนลด 40% ดันยอดอีก 600 ล้านบาท "DRT" หดเป้ารายได้เหลือใกล้เคียงปีก่อน 4.4 พันล้านบาท

ดัชนีเชื่อมั่นเด้ง4เดือนติดแนะเร่งใช้งบ-เลิกอัยการศึกกระตุ้นศก.
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.ดีดพรึ่บทุกรายการ ขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 มาอยู่ระดับสูงสุดรอบ 13 เดือน หลัง "บิ๊กตู่" ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ มีการจัดตั้ง ครม. แนะรัฐเร่งใช้จ่ายงบ เลิกกฎอัยการศึกจังหวัดท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ คลังจ่อคลอดมาตรการกระตุ้น ดันจีดีพีโต 2%

เอาจริง!กยศ.จ้างบริษัททวงหนี้นักเรียน
กยศ.ลุยจ้างบริษัทติดตามทวงหนี้ หลังเจอนักเรียน-นักศึกษาเบี้ยวหนี้ ยันเป็นขั้นตอนปกติ

ธ.ก.ส.จัดเงิน1.5หมื่นล้านอุ้มชาวสวนดันราคายางฯ
ธ.ก.ส.เดินหน้าปล่อยกู้สถาบันเกษตรกรอุ้มยางพารา 1.5 หมื่นล้านบาท คาดช่วยดูดซับยางพาราออกจากระบบ 1.3 แสนตัน หวังช่วยพยุงราคายางเพิ่มขึ้น

พิษขาดแรงงานกลุ่มฝีมือแพงขึ้นหนุนอาคารเขียว
นายอายุธพร บูรณะกุล นายกสมาคมวิชาชีพการบริหารทรัพยากรอาคาร เปิดเผยว่า จากปัญหาขาดแคลนแรงงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บุคลากรในหลายสาขาอาชีพในงานก่อสร้าง โดยเฉพาะแรงงานที่มีฝีมือ มีอัตราค่าแรงสูงขึ้น

'กฟผ.'เลิกง้อซื้อก๊าซ'ปตท.'ตั้งทีมวางแผนนำเข้าเองมั่นใจหาได้ต้นทุนต่ำกว่า
กฟผ.ระดมบริษัทลูกเตรียมนำเข้าก๊าซใช้ผลิตไฟฟ้าเอง ชี้ปี 2558 แม้เปิดเสรีท่อ แต่จะไม่มีเอกชนรายใดเข้าใช้ เหตุต้องเตรียมตัวสร้างคลังกว่า 3 ปี เชื่อจัดหาก๊าซถูกกว่า ปตท. ช่วยค่าไฟฟ้าถูกลง

ทรูอินเทอร์เน็ตจับลูกค้าองค์กร
"ทรู อินเทอร์เน็ต" รุกตลาดลูกค้าองค์กรเอ็นเตอร์ไพรส์-เอสเอ็มอี หวังสิ้นปีนี้ครองที่ 1 มาร์เก็ตแชร์ ตั้งเป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 30%

เครื่องดื่ม'อีฟ'คิดการใหญ่ลุยโกอินเตอร์
นายพงศกร พงษ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดริ้งค์โคโลจีสต์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำมะขาม อีฟ โลคอลเซนเซชั่น เปิดเผยว่า ในขณะนี้ผู้บริโภคในต่างประเทศค่อนข้างสนใจเครื่องดื่มที่เป็นในส่วนของเอเชียนดริ้งค์ บริษัทจึงมีความสนใจขยายธุรกิจดังกล่าวไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น จึงได้ทำการขยายมาในเซ็กเมนต์ใหม่ "อีฟ โลคอลเซนเซชั่น" ด้วยการเปิดตัว "น้ำมะขาม อีฟ โลคอลเซนเซชั่น" ซึ่งพร้อมที่จะทำตลาดในต่างประเทศทันทีในช่วงปลายเดือนนี้ จากปัจจุบันได้ทำตลาดให้กับน้ำผลไม้ระดับพรีเมียม "อีฟ ฟรุตตามิน" เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ลาว และเกาหลีใต้ มาบ้างแล้ว
เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

หุ้นขึ้นเครื่องหมาย *** 05/09/57 ***

หุ้นขึ้นเครื่องหมาย
*** 05/09/57 ***

+ XD +
SCB : 1.50 บาท PD : 19/09/57
SCB-P : 1.50 บาท PD : 19/09/57
TAPAC : 0.04 บาท PD : 22/09/57
TNPF : 0.1875 บาท PD : 24/09/57

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

News summary: สรุปข่าวประจำวันที่ 4 ก.ย.57

News summary: สรุปข่าวประจำวันที่ 4 ก.ย.57

"ประยุทธ์"นำ ครม.ใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ 17.00 น.ที่ รพ.ศิริราช
CCN เผยยอดจองหุ้น IPO 60 ล้านหุ้นหมดเกลี้ยง รอเทรด mai 11 ก.ย.นี้
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส: YLG
AIT คาดปี 57 รายได้ทะลุเป้าแตะระดับ 6.4-6.5 พันลบ. ลุ้นประมูลงาน 8.16 พันลบ.
AJD ยิ้ม! มั่นใจ Set top Box หนุนยอดขายพุ่งกระฉูด รับมุกคสช.แจกคูปองฯ
JMART คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 15% มอง 2H57 สถานการณ์ดีขึ้น
สรุปยอดซื้อขายสุทธินักลงทุนต่างชาติ (ภาคเช้า)
"เค.ซี.เมททอลชีท" จ่อยื่นไฟลิ่งขาย IPO 200 ล้านหุ้น ก.ย.นี้ หวังเทรดต้นปี 58
BWG โตกระฉูดหลังลุยธุรกิจไฟฟ้า
LDC ร่วงสวนทางวอลุ่ม จังหวะดีเข้าเก็บ หลังฟุ้งรายได้โตก้าวกระโดด-รอปิดดีลฮุบกิจการ
กมธ. หั่นงบฯปี 58 ออก 1.6 หมื่นลบ. เตรียมพิจารณาวาระ 2, 3 ใน 17 ก.ย.นี้
AIRA จ่อลงนาม MOU กับ AIFUL CORPORATION ในญี่ปุ่นลุยธุรกิจสินเชื่อ
บอร์ด TUF ไฟเขียวบ.ย่อยเข้าซื้อหุ้น “เมอร์อลิอันซ์ เอสเอเอส” ในฝรั่งเศส
AIT เซ็น MOU กับ “First Cambodia” บุกตลาดกัมพูชา
ฮั่งเส็งปิดเช้าลบ 68.46 จุด ขณะตลาดเอเชียผันผวน
TTCLคึก! ดีดแรงในรอบกว่า 1 เดือน วอลุ่มพุ่งปรี๊ด ลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป 37.50 บ.
KBS คาดกำไรปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน มองโรงไฟฟ้าขายไฟได้ธ.ค.นี้
PTT บวก 0.61% แจกปันผลสูงลิบ 6 บ./หุ้น XD 15 ก.ย.นี้ โบรกฯเชียร์ซื้อ
SC ออกหุ้นกู้ 800 ลบ. เปิดจอง 9-12 ก.ย. นี้
DRT หั่นเป้ารายได้ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อน-รักษากำไรที่ระดับ 451 ลบ.
TRC คาดปีนี้กำไรโตก้าวกระโดด จ่อประมูลงาน 7.5-8.7 พันลบ.
ตลท.ให้ ADAM แจงข้อมูลการเพิ่มทุนต่อที่ประชุม 8 ก.ย.นี้
DEMCO เริ่มร่วง1.25% มองหุ้นเต็มมูลค่า-ปรับลดประมาณการกำไรปี 57-58
PF วิ่งแล้ว หลังมีข่าวเตรียมขายหุ้น KLAND/เพิ่มทุนเพื่อ SWAP หุ้น TPROP หนุนฐานทุน
BMCLแรงดีบวกอีก1.69% ลุ้นมีกำไรปี 60 จากปริมาณการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
กลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรมเริ่มวิ่ง รับลูกคสช.เล็งยกเลิกกฏอัยการศึกพรุ่งนี้-Q4 เข้าไฮซีซั่น
บล.เคจีไอฯ ประเมินภาพรวมกลยุทธ์ลงทุนปี 58 ชู 4 หุ้นเด่นเน้นถือยาว
โบรกฯชู 4 หุ้นสวย แนวโนมกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัวโดดเด่น
Media Sector By บล. เคเคเทรด
GLOBAL ผนึก “เอสซีจี” ตั้งบ.ร่วมทุนรุกธุรกิจอาเซียน
PSL แจ้งรับมอบเรือเพิ่มรวมมีทั้งหมด 44 ลำ
PTT แจกปันผล 6 บ./หุ้น XD 15 ก.ย.นี้

เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)

UTP ทำรูปแบบ Descending triangle Break out


  UTP ทำรูปแบบ Descending triangle Break out กรอบสามเหลี่ยมได้มองกลับตัวขึ้นไปบริเวณ 6.5 ครับ pattern สวยกราฟทดสอบแนวรับ Rsi ยก low ขึ้น และปริมาณบางลง มองแนวต้าน 5.50 แนวรับ 5.20 ครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

ข้อคิดดีๆ

    คนเราเกิดมาทั้งที มันต้องมองให้ไกล วางเป้าหมายไว้สูงๆ ยิ่งสูงก็ยิ่งดี แล้วค่อยมาเรียงลำดับขั้นตอนว่าต้องทำอะไรก่อนอะไรหลัง คุณอยากเป็นเจ้าของบริษัท คุณต้องมั่นใจว่าตัวเองทำได้ ! คุณอยากเป็นนักลงทุนพันล้านคุณต้องมั่นใจคุณทำได้! หากแม้แต่ตัวคุณเองยังดูถูกตัวเองมองแค่ว่าเอาแค่นี้พอ ทำไม่ได้หรอก คุณก็จะมีเท่านี้ เพราะคุณแทบจะไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยว่าคุณทำได้ ถ้าคุณพอใจแล้วนั่นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณ ชีวิตของคุณ แต่สำหรับผมนั้นชีวิตมันก็คือเกมส์ๆนึง มันไม่ง่ายแต่มันก็ไม่ยากขนาดที่คนเราจะทำไม่ได้ หากคุณตั้งมั่นที่จะทำแล้วละก็เชื่อผมเถอะ คุณสำเร็จไปแล้วครึ่งนึงอีกครึ่งที่เหลือคือคุณต้องอุตสาหะและสู้ ความสำเร็จมันอยู่ไม่ไกลมือเราครับ มันอยู่รอบๆตัวเรา เพียงแค่คุณจะฉกฉวยมันมาครองไหม? ชีวิตผมมีอะไรให้ผมทำอีกเยอะ มีอีกหลายที่บนโลกที่ผมอยากจะไปสัมผัส และสร้างประสบการณ์ ดังนั้นหากผมเจอโอกาสผมจะรีบคว้ามัน และยิ่งทำให้มันสำเร็จไวเท่าไรก็ยิ่งดี แด่บุคคลที่มีเป้าหมายทุกๆคน....

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

แนะนำในการเก็บ JMART


     JMART ใครได้อ่านบทวิเคราะห์ผมก่อนหน้านี้ผมได้แนะนำในการเก็บ JMART ซึ่งโดยลักษณะของกราฟแล้วมองกลับตัวขึ้นไปโดยมี target ที่ 16.60 แต่ระหว่างนี้ Jmart จะเจอกับแนวต้านสำคัญบริเวณ 14.50/14.30 ผ่านได้จะยืนยัน pattern W shape มองเป้าหมาย 16.60 ครับ กราฟลักษณะนี้จะเหมือนกับกรณี หุ้น TTA BJCHI GLOBAL TTCL NOK ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ผมได้แนะนำไป Pattern ลักษณะนี้เกิดบ่อยครับ บางคนอาจจะใช้ Harmonic มองเป็น Dragon pattern แต่ทั้งนี้ผมคิดว่าหากเรารู้ลักษณะ Dow theory และรูปแบบ reversal patern price pattern basic แค่นี้ก็สามารถมองเป้าหมายได้ชัดเจนละครับ Dow theory คือสิ่งที่มีความหมายและมีสิ่งซ่อนเร้นไว้อยู่ หากเรานั่งพินิจวิเคราะห์รูปแบบมันดีๆ จะเห็นลักษณะซ่อนเร้นนี้ครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

TTA มอง 23 เป็นแนวรับแข็งแรง


     TTA มอง 23 เป็นแนวรับแข็งแรงมอง ลงมาแถวๆ 23 เป็นจุดตั้งรับที่ดีครับ ลักษณะกราฟมองทำ Flag pattern มองแกว่งตัวในกรอบ 23.80-23 แกว่งสร้างฐานเพื่อขึ้นต่อมองเป้าหมาย 24.6/25 ครับ กรณีผิดทางวางจุด stop ที่ 22.5 ครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

ERW มองจังหวะซื้อดักมองจุดตั้งรับ 5 บาท



     ERW มองจังหวะซื้อดักมองจุดตั้งรับ 5 บาท ลงมาอยากให้พิจารณา volume ประกอบลงมาแล้ว Vol. บางลงจะสวย หากยิ่งลงมาแล้วทำแท่งราคาลักษณะสัญญาณ reversal จะยิ่งชัดเจน มองตั้งรับ 5 บาท แกว่งตัวในกรอบ แนวต้าน 5.50/5.30 แนวรับ 5 สักพักเพื่อระบายแรงแล้วขึ้นต่อผ่านแนวต้าน 5.50 ได้เป้าหมาย 6.10 ครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)



PSL ลงมา test low



PSL ลงมา test low บริเวณแนวรับ 26.5 /25.75 มองแนวรับแถวนี้รับไหว มองแกว่งตัวเพื่อทดสอบแนวต้าน 27.5 ผ่านได้ไปกลับไป high เดิมครับ โดยรวมผมยังมีมุมมองว่า กลุ่มเรือเทกองจะระบายแรงขายแล้วกลับตัวขึ้นต่อได้ทั้งนี้ PSL ในเชิงเทคนิคผมมองกลับตัวไป บริเวณ 29.25 และ 31 บาท ตามลำดับครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)