Set index 15 นาที แกว่งโน้มแกว่งตัวทดสอบแนวต้าน 1542 แนวรับ 1532



     Set index 15 นาที แกว่งโน้มแกว่งตัวทดสอบแนวต้าน 1542 แนวรับ 1532 กราฟในแนวโน้มระยะสั้นทำรูปแบบ Hidden Bearish Divergence ดังนั้น index มีแนวโน้มที่จะย่อตัวหากวันนี้ไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1542 ได้ครับ ดังนั้นผมยังคงมองแนวโน้ม set index เด้งขึ้นก็ยังมีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงหากไม่สามารถกลับขึ้นไปทำ Dow theory ในแนวโน้ม Minor trend ได้ครับ หากตลาดปิดวันลักษณะเหมือนครึ่งเช้าก็มีโอกาสที่สัปดาห์หน้าจะปรับตัวย่อลงครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

กลุ่มธุรกิจกลุ่มพลังงาน

กลุ่มธุรกิจกลุ่มพลังงาน


โดยส่วนตัวผมจะแบ่งกลุ่มธุรกิจพลังงานออกเป็น 4 ส่วนดังนี้ 1.ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน 2.ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน 3.ธุรกิจปิโตรเคมี 4.ธุรกิจขุดเจาะแหล่งพลังงาน
1.) ธุรกิจน้ำมัน จะเป็นธุรกิจที่่มีความเกี่ยวข้องกับความต้องการของการใช้น้ำมัน และธุรกิจนี้จะเป็นผู้ให้บริการค้าปลีกในการส่งน้ำมันให้แก่ปั๊มน้ำมัน หลังจากที่ผ่านการกลั่นจากโรงกลั่นเพื่อนำมาจำหน่าย ดังนั้นธุรกิจน้ำมันจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน โดยทั้งนี้จะอยู่ที่ความต้องการของผู้บริโภคทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม หากผู้ผลิตไม่สามารถผลิตน้ำมันออกมาได้ตามความต้องการของผู้บริโภค ย่อมส่งผลให้เกิดน้ำมันขาดแคลนทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้แหล่งน้ำมันใหญ่ๆของโลกจะอยู่โซนตะวันออกกลาง ดังนั้นหากเกิดปัญญาในบริเวณแหล่งน้ำมันสำคัญๆ หรือเกิดสงครามย่อมส่งผลต่อราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
2.)ธุรกิจโรงกลั่น ธุรกิจโรงกลั่นจะทำหน้าที่ในการกลั่นน้ำมันโดยรับน้ำมันดิบจากแหล่งการผลิต โดยโรงกลั่นนั้นจะมีอยู่ 2 ลักษณะ 1.simple refiner 2.complex refiner
2.1 ) Simple refiner เป็นโรงกลั่นแบบธรรมดาโดยใช่เทคโนโลยีแบบเก่า ที่ไม่สามารถกลั่นน้ำมันได้คุณภาพที่สมบูรณ์ดังนั้นจึงทำให้ได้น้ำมันที่คุณภาพต่ำเจือปนเป็นน้ำมันเตา
2.2 ) Complex refiner เป็นโรงกลั่นแบบเชิงซ้อนที่สามารถกลั่นน้ำมันได้ดีกว่าแบบ Simple refiner สามารถกลั่นน้ำมันออกมาได้ทุกประเภทและมีคุณภาพสูงมากกว่าแบบเทคโนโลยีเก่า ดังนั้นการที่สามารถกลั่นน้ำมันที่มีคุณภาพสูงได้มากกว่าจึงทำให้ โรงกลั่นแบบ Complex จะมีอัตรากำไรที่สูงมากกว่าโรงกลั่นแบบ Simple refiner
โรงกลั่นน้ำมันนั้นจะมีส่วนของกำไร ที่เป็นส่วนต่างจากน้ำมันดิบและน้ำมันที่กลั่นซึ่งจะเรียกว่า "ค่าการกลั่น" (Gross refining margin) GRM ก็คือส่วนต่าง (Spread) ระหว่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปหน้าโรงกลั่น (Ex.Refinery Price) กับราคาน้ำมันดิบที่โรงกลั่นซื้อมาเป็นวัตถุดิบในการกลั่น ซึ่งยังไม่ได้รวมค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆครับ ค่าการกลั่นนี้จะเป็นไปตามราคาตลาดน้ำมันโลก ดังนั้นหากราคาน้ำมันยิ่งปรับตัวสูงขึ้นยิ่งทำให้โรงกลั่นสามารถเพิ่มค่าการกลั่นได้สูงขึ้นเช่นกัน ราคาขายน้ำมันสำเร็จรูปหน้าโรงกลั่นในประเทศไทยจะอ้างอิงราคาจากตลาดสิงคโปร์บวกกับค่าขนส่ง เพราะตลาดน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเพื่อโรงกลั่นภายในประเทศจะได้เกิดการแข่งขันในการพัฒนาการลงทุนเพิ่มเติมและปรับปรุงเพื่อแข่งราคากับน้ำมันสำเร็จจากสิงคโปร์ครับ ปัจจุบันจะมีโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นในแถบตะวันออกกลาง และในเอเชียก็จะมีที่ประเทศจีนครับ
3.)ธุรกิจปิโตรเคมี จะแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ 1.สายอโรเมติกซ์ 2.สายโอเลฟินส์ 3.1 ) สายอโรเมติกซ์นั้นจะเริ่มต้นจากการนำผลผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันมาแปนรูปซึ่งสามารถนำไปสังเคราะห์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เช่น ยางรถยนต์ เชือกไนล่อน
3.2 ) สายโอเลฟินส์ จะนำผลผลิตจากโรงแยกก๊าซ จากโรงกลั่นน้ำมันมาแปรรูปซึ่งสามารถสังเคราะห์ให้เป็นผลิตภัณฑ์พลาสติก เช่น ท่อพีวีซี ขวด ถุงพลาสติก เป็นต้น
ปิโตรเคมีจะมีลักษณะเป็นสินค้า commodities ซึ่งราคาจะเป็นไปตามอุปสงค์และอุปทานของความต้องการของตลาดโลก ทั้งด้านผู้บริโภค และผู้ผลิต ดังนั้นกำไรหุ้นปิโตรเคมีจึงขึ้นอยู่กับส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์และราคาวัตถุดิบ หากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเพิ่มขึ้นในตลาดโลกเพิ่มขึ้นผลกำไรก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกันหาราคาผลิตภัณฑ์ในตลาดโลกลดลง ผลกำไรก็จะปรับลดลงเช่นกัน จึงทำให้ราคาหุ้นของกลุ่มปิโตรเคมีมีความผันผวนสูงตามราคาตลาดโลกและจะเป็นไปตามรอบวัฎจักรที่ขึ้นอยู่กับ Demand และ supply จากผู้บริโภคและผู้ผลิตครับ
4.)ธุรกิจขุดเจาะแหล่งพลังงาน มีหน้าที่ในการแสวงหาแหล่งพลังงานใหม่ ทั้งก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันดิบ ทำการลงแท่นขุดเจาะและส่งผลิตภัณฑ์ต่อให้กับโรงกลั่น รายได้หลักจึงมาจากการขายพลังงาน ทั้งนี้ธุรกิจขุดเจาะได้ขยายตัวไปยังต่างประเทศเพื่อหาแหล่งพลังงานใหม่ ในประเทศไทยมีแหล่งพลังงานสำคัญบริเวณอ่าวไทยซึ่งจากความต้องการของผู้บริโภคจึงทำให้แหล่งพลังงานอ่าวไทยถูกใช้ไปในปริมาณมากจึงต้องเหลือสำรองพลังานไว้อย่างจำกัด ดังนั้นจึงพูดได้ว่าหุ้นธุรกิจขุดเจาะหาแหล่งพลังงาน จะมีราคาและผลกำไรตามทิศทางของราคาน้ำมันหากราคาขายสูงขึ้นก็จะยิ่งส่งผลโดยตรง และการหาแหล่งพลังงานใหม่ๆยิ่งมีมากขึ้นก็ยิ่งส่งผลดีต่อกำลังการผลิต หุ้นธุรกิจขุดเจาะแหล่งพลังงานเช่น PTTEP นั้นจะมีเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทไทยมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะมีฐานรายได้ในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้ หากค่าเงินบาทยิ่งแข็งตัวก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อกำไร และหากค่าเงินบาทอ่อนตัวก็ยิ่งส่งผลดีต่อกำไรครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

หลักของการลงทุนในธุรกิจหรือซื้อหุ้นเน้นคุณค่านั้น...

     ในหลักของการลงทุนในธุรกิจหรือซื้อหุ้นเน้นคุณค่านั้น เราย่อมหวังผลในตัวกิจการซึ่งราคาย่อมสะท้อนจากผลกำไรที่บริษทัสามารถขายสินค้าและบริการได้ จากที่ผมลงทุนในตลาดหุ้นมา 7 ปี ก็ย่อมเจอทั้งบริษัทที่ดีให้ผลตอบแทนที่ดี และบริษัทที่ไม่ดีและมีหนี้สินมากมาย บริษัทที่ดีหากถามใครๆก็บอกว่ามันดี ดีเหลือเกินซื้อไปเถอะ นั้นก็เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บอกว่าคุณซื้อหุ้นแพงถึงแม้บริษัทจะดีมากแค่ไหนก็ตาม อาทิเช่น หุ้นขนาดใหญ่ไม่มีใครเถียงหรอกครับว่าหุ้น ADVANC ผู้ให้บริการระบบเครือข่ายอย่าง AIS นั้นห่วยแตก เช่นเดียวกันหุ้น PTT บริษัทที่มีรากฐานจากกิจการพลังงานมันก็ไม่ใช่บริษัทห่วยแตก แต่หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้คือหุ้นที่ทุกคนรักรู้ไปหมดแล้ว ลองไปถามคนไม่เล่นหุ้นเขายังตอบคุณได้เลยว่า PTT ADVANC KBANK หุ้นเหล่านี้คือผู้นำ และที่สำคัญที่มีคนรับรู้ตลาดรู้จักแล้วมันย่อมเป็นหุ้นที่โตช้า มันจะเติบโตได้แต่ก็เติบโตไปอย่างช้าๆ หรือบางทีก็ไม่เติบโตเล็กน้อย นั่นคือมันไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นที่จะลงทุนระยะยาวอีกต่อไปแล้วหากเป็นเมื่อ 10-20 ปีแล้วผมก็คงจะชอบหุ้นแบบนี้แต่ตอนนี้หุ้นเหล่านี้มีไว้เพื่อเก็งกำไร รวมถึงหุ้นเหล่านี้อาศัยกระแสเม็ดเงินจาก Fund flow ดังนั้นหากจะถามถึงมุมมองระยะยาวๆ ผมจะตอบว่ามันคือบริษัทดีที่มีความแข็งแกร่งในแง่ของกิจการ แต่มันเป็นผู้ชนะที่ทุกคนรับรู้กันหมดแล้ว มันอาจจะเติบโตได้แต่สำหรับผม มันไม่มีความคุ้มค่าใดๆหากผมจะยอมเสียเวลาสัก 10 ปี เพื่อถือหุ้นเหล่านี้ผมมีความคิดเห็นว่าการเทรดเก็งกำไรในหุ้นเหล่านี้มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากกว่า ผมทำกำไรในหุ้นลักษณะนี้ต่อปีโดยประมาณจะได้ผลตอบแทนจากการเทรดที่ 1-2 ล้านบาท ดังนั้นหุ้นเหล่านี้คือหุ้นที่สร้างพอร์ตเก็งกำไรให้ผมหากเรารู้วิธีเล่น เราก็มีโอกาสได้กำไรมากกว่าขาดทุนครับ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือในตลาดหุ้นจะมีหุ้นที่บริษัทดีแต่งบกำไรดีแต่ขาดสภาพคล่องในเงินสด แบบนี้ก็เหมือนพระเอกขี่ม้าขาวพอตอนจบก็ตกม้าตาย ที่ผ่านมามีหลายบริษัทที่ถือได้ว่าเป็นดาวรุ่ง แต่สุดท้ายกลับเป็นรุ่งริ่ง เพราะ บริษัทขยายตัวเร็วเกินไปและเงินสดหมุนเวียนน้อย สุดท้ายแล้วมันก้เหมือน คุณขับ benz e-class แต่น้ำมันหมดกลางทาง สุดท้ายหุ้นเหล่านี้ก็ผันตัวกลับกลายมาเป็นหุ้นที่มีปัญหา แล้วก็จะจบลงที่กลายเป็นหุ้นปั่นทำราคา หากคุณไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่ากิจการที่สนใจนั้นในอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่างน้อยๆเราก็สามารถที่จะมองหาว่าบริษัทนั้นๆมีแผนดำเนินงานอย่างไรในอนาคตที่จะหาวิธีการเพิ่มกำไร ซึ่งเราก็ต้องติดตามนโยบายและแผนงานนั้นๆ อย่างเป็นระยะๆครับ ส่วนใหญ่จากประสบการณ์ผมจะเห็นวิธีการที่บริษัทจะเพิ่มกำไรได้นั้นจะมีอยู่ 6 วิธีการดังนี้

1.ขยายตัวเข้าสู่ตลาดใหม่
2.ขายสินค้าให้มากขึ้นในกลุ่มลูกค้าและตลาดเดิม
3.ลดต้นทุน
4.ขึ้นราคาสินค้า
5.ขายกิจการที่ขาดทุนทิ้งไปหรือฟื้นฟูให้มันดีขึ้น
6.เปลี่ยนรูปแบบกิจการไปทำกิจการที่มีอนาคตกว่า
ดังนั้นหากบริษัทจะเพิ่มกำไรหรือแก้ไขปัญหาภายในก็จะต้องมีแผนงานดังที่ผมกล่าวมาในมือครับหุ้นหลายตัวเปลี่ยนกิจการไปทำรูปแบบใหม่แล้วดีขึ้นเช่น ifec และนั่นก็คือสาเหตุที่ผมซื้อมันตอนราคา 3-3.5 บาท เมื่อมีแผนงานที่ดีมี trend ที่น่าสนใจสิ่งทีน่าสนใจต่อมาคือ กราฟราคามันดีไหม ผมจะมองกราฟไว้หลังสุดหากผมต้องการจะถือหุ้นสักตัวเพื่อหวังการทำกำไรหลายๆเด้ง เพราะกราฟ ฟอร์มตัวทำ W shape ใหญ่และยกตัวทำ dow theory ได้ซึ่งจากการให้ความสนใจใน ifec นี่เองที่ทำให้ผมได้ให้ความสนใจกับหุ้นตัวต่อมานั่นคือหุ้น ea หรือหุ้น s ในปัจจุบันที่ผมทยอยสะสมตั้งแต่ 1 - 2 บาท สิ่งที่จะทำให้บริษัทเติบโตได้คือ ผลกำไร หลายครั้งราคาหุ้นนำผลกำไรของกิจการ เพราะคนให้ความนิยมมากเกินไป สุดท้ายแล้วราคาหุ้นมันย่อมกลับมาสะท้อนตามผลงานของกิจการ เช่นเดียวกัน หากบริษัทจะอยู่ได้บริษัทนั้นก็ต้องมีเงินสดที่หมุนเวียนที่ดีที่พอจะดูแลการขับเคลื่อนผลกำไรของกิจการครับ...

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับเพิ่มขึ้น +7.32 จุด


     แนวโน้มตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าปรับเพิ่มขึ้น +7.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16,510 ล้านบาท มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยรีบาวด์สั้นๆ ยังคงมองแนวโน้มที่มีโอกาสปรับตัวลงต่ออีกครั้ง โดยมองกรอบแนวต้าน 1542.72 แนวรับ 1531.71 ในระยะสั้นมีแนวโน้มลงมาทดสอบแนวรับ 1531 ก่อนสักครั้ง หากยืนสร้างฐานได้จะมีแนวโน้มรีบาวด์ต่อมองขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1542 และ 1556 ตามลำดับ กราฟ Set index ในระยะ 15 นาที เริ่มฟอร์มตัวทำรูปแบบ head and shoulder bottom ที่บ่งชี้ว่าหากดัชนีสามารถขึ้นไปยืนเหนือ 1542.72 ได้จะมีแนวโน้มกลับขึ้นไป 20 กว่าจุด โดยประมาณทั้งนี้ราคาควรยืนเหนือ 1542 ให้ได้และจะมีกรอบแนวต้านสำคัญที่ 1556-1561 ครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)