คอลัมน์ วันพุธที่ 08 ตุลาคม 2557
ข่าวหุ้นธุรกิจ
*ประเด็นที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษเป็นเรื่องเกมการเงินของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ และตัวแปรหลักที่ทำให้ดัชนีเป๋ไปเป๋มาอยู่ที่ กองทุนแอ๊บแบ๊ว ปอบผีฟ้า และฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งแต่ละรายล้วนเล่นในสไตล์ “ซอยสั้นๆ แต่ซอยถี่ๆ” ดัชนีถึงไปไหนได้ไม่ไกล...วันก่อนกองทุนเป็นคนทุบหุ้น พอโดนด่าหนักๆ ก็กลับลำ 360 องศา เข้ามาซื้อหุ้นคนเดียวโดดๆ ไงล่ะค่ะ
*เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก แค่เป็นทฤษฎีเกม ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า นักลงทุนอยู่ฝ่ายไหนและเรื่องนี้เปรียบเทียบได้ง่ายๆ จากข่าวลืออัปมงคลเมื่อวันก่อน พอถึงวานนี้กลับไม่มีอะไรในกอไผ่ “โมนิก้า” ถึงไม่อยากให้แฟนคลับโอนอ่อนไปตามกระแสตลาด เพราะมันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น และยังเป็นแรงกดดันที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นผิดจังหวะ เพราะของมันเห็นกันชัดๆ ว่า หุ้นบลูชิพได้รับผลกระทบหนักสุดเจ้าค่ะ
*ประเด็นนี้ทำให้การอ่อนตัวของดัชนีลงมาปิดที่ 1,539.39 จุด ลบไป 3.74 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.81 หมื่นล้านบาท ไม่ใช่สาระสำคัญที่แฟนคลับต้องใส่ใจ เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่า ต้นทุนของผู้เล่นกลุ่มหลักอยู่แถวๆ 1,500-1,520 จุด ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ทะยานสวนดัชนีไม่มีต้นทุนให้คิด เนื่องจากเขามองไปที่แวลูในอนาคตจะเป็นเช่นไร? วานนี้ถึงเห็นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กขึ้นกันมาเพียบพะยะค่ะ
*แหล่มสุดๆ ต้องยกให้พระเอกตัวจริง AJD ของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า หุ้นมหานิยม! แต่ควรจะถึงเวลาขายทำกำไรเสียที หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่ 15.20 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 690 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่าได้ราคาตรงตามเป้าหมายที่พรายกระซิบเม้าท์มอยด์ให้ฟังหลายรอบ แถมกิมมิคที่เล่นในรอบนี้ก็ปล่อยหมดแล้ว...เล่นต่อหรือไม่ ต้องไปคิดเป็นการบ้านเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่ต้องไปคิดเหมือนกันคือ มิสเตอร์ทีม TEAM จู่ๆ มีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องแบ็คดอร์ขึ้นมากะทันหัน ย่อมเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยปกติสำหรับหุ้นที่ไม่มีวอลุ่ม แถมข่าวเม้าท์ที่ซุบซิบตามซอกตึกห้องค้าออกไปในทางเชื่อครึ่ง ไม่เชื่อครึ่ง ทำให้พรายกระซิบถึงกับตาลุกวาวเท่าไข่ห่าน พร้อมกับเสาะแสวงหาข่าวกันจ้าระหวั่น สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลว จึงไม่มีคำอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 2.20 บาท บวกไป 0.21 บาท หรือขึ้นไป 10% วันนี้ถึงต้องตามไปดูว่า จะเข้าอีหรอบไหน?
*เหมือนกับในรายของอีเว่อร์ EVER ในเมื่อทุกคนลงความเห็นเหมือนกันว่า มีข่าวดีซ่อนไว้แน่ๆ ราคาหุ้นก็ควรจะไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ใช่ไหม “โมนิก้า” ขอตอบว่า ใช่ แต่มีข้อโต้แย้งสักเล็กน้อยว่า ระดับไหนถึงจะเป็นจุดเหมาะสม? เนื่องจากเดี๊ยนชอบอะไรที่ชัดเจน หากยังคลุมเครือแบบนี้ มันเสียววาบไปถึงท้องน้อย ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.18 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 9.66% วอลุ่มแน่นเอี้ยดแบบนี้...มันต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่เช่นนั้นจะมีคนตะลุยซื้อไม่ยั้งเหรอค่ะ
*พูดถึงเรื่องมีอะไรขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ชอบหันไปดูหุ้นลิสซิ่งขนาดเล็กอย่าง LIT ขึ้นมาในทันที ของมันเห็นกันทนโท่เป็นการลากไปออกของ พร้อมกับใช้มุขเดิมๆ ที่เห็นจนชินตา แต่ยังมีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาเล่นอย่างไม่ลืมหูลืมตา “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับนึกถึงค่า P/E ที่ระดับ 22 เท่า และค่า P/BV ที่ระดับ 3 เท่า มันเยอะเกินไปหรือเปล่า? เมื่อเทียบกับราคาหุ้นในกระดานที่ระดับ 4.22 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.50% หรือผู้เล่นมองประเด็น “หุ้นแวลู” อันนี้ก็ต้องดูกันต่อไปว่า จะทำได้ไหม?
*เช่นเดียวกับในรายของ FPI ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 13.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 7.75% ด้วยมูลค่า 180 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของจังหวะเวลามันได้พอดี แรงซื้อถึงกรูเข้ามาใส่เป็นจำนวนมาก แต่ถ้ามองในมุมของแพทเทิร์นของหุ้นนานทีปีหนจะกระชากแรงสักครั้ง เดี๊ยนถือว่า จังหวะนี้เป็นการใส่ทุกอย่างหมดแม็กซ์แล้วอย่างสมบูรณ์ หลังจากนี้คือความเสี่ยงของผู้เล่นที่ต้องไปวัดดวงกันเอาเองว่า ใครจะได้ลงจากดอย ใครจะอยู่บนดอย...อิอิอิ
*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อสะท้อนถึงความเป็นมือโปรของ บลจ.ยูโอบีฯ ภายใต้การควบคุมของคุณน้อง “วนา พูลผล” หลังเข้ามาบริหารกองทุนให้กับ “ข่าวหุ้น” ได้แค่ปีเดียว รีเทิร์น 4.75% พนักงานเลยร้องวี๊ดวิ้วกันยกใหญ่ เพราะเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมกระเทียมดอง...งานนี้ใครอยากได้มืออาชีพรายนี้ไปบริหารงานให้...กริ๊งกร๊างกันได้โดยตรงนะคะ
*สรุปสุดท้าย ทั้งหมดนี้ว่ากันด้วยมุข “หุ้นแวลู” ว่างั้นเถอะ!...ส่วนตัวไหนจะเป็นของจริง ตัวไหนจะเป็นของปลอม 1-2 วันนี้ได้รู้แน่ๆ เจ้าค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น