Throw Back - Pull back








Throw Back - Pull back
Throw back คือ ลักษณะของการเกิดช่วงที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นไปแล้วๆ ถูกแรงขายๆกดลงมาพัก แล้วสามารถกลับตัววิ่งขึ้นไปทำ new high ใหม่ ลักษณะนี้เรียกว่า การ throw back ครับ
Pull back คือ ลักษณะของการเกิดช่วงที่ราคาหุ้นได้หลุดแนวรับลงไปแล้วๆ ถูกแรงซื้อดันขึ้นมา แต่ก็ถูกแรงขายๆกดลงมาจนทำ new low ลักษณะนี้เรียกว่า pull back ครับ
สิ่งที่น่าสังเกตคือ การเกิด throw back หากราคาย่อลงไม่มากตอนกลับตัวขึ้นต่อจะไปได้แรงครับ เพราะตามหลักจิตวิทยาแล้วลงน้อยก็เพราะคนขายน้อย Demand & supply และเช่นเดียวกันหากการ pull back เด้งขึ้นมาน้อยก็มีแรงขายกดราคาให้ลงต่อได้แรงเช่นกันครับ
‪#‎ผมทำรูปแบบ‬ Throw back และ Pull back มาให้ดูประกอบครับ ตามรูปที่1 และ รูปที่ 2
‪#‎ต่อมาผมทำ‬ case มาให้ดูประกอบในกรณี การ throw back และ Pull back ครับ
แท้จริงแล้วลักษณะการเกิดการ throw back นั้นจะเกิดขึ้นในตลาดที่เกิด trend Bullish ซึ่งจะเกิดในระยะสั้นหรือระยะยาวก็ได้ และเช่นเดียวกัน ลักษณะการเกิดการ pull back นั้นก็จะเกิดขึ้นในตลาดที่เกิด trend Bearlish ครับ
‪#‎จากรูปที่‬ 3 คือ การเกิดรูปแบบการ throw back ของราคา ซึ่งเกิดกับกรณีหุ้น TWZ การ throw back นั้นตามจิตวิทยาจะมองเป็นลักษณะการ test แรงเพื่อดูพลังของ trend ว่ามีแรงอยู่ไหม หรือมีคนสนใจเล่นหุ้นตัวนี้มากเท่าใด หากกรณีหุ้นเกิดการยก low ได้จะเป็นการสนับสนุนว่า trend ยังมีแรงดังนั้นหากยก low ได้ก็จะทำให้มีการเติมเงินเข้ามาเพื่อส่งแรงให้ break out แนวต้าน หรือที่เราเรียกว่า throw back นั่นเองครับ
#จากรูปที่ 4 คือ รูปแบบการ throw back หากกรณี throw back แล้วไม่เกิดการ break out แนวต้าน ก็ห้ามทำการทำ low ใหม่เด็ดเพราะ หากเกิดการทำ low ใหม่จะเข้าในรูปแบบ false throw back ซึ่งหากเกิดลักษณะ false throw back ก็จะยืนยันแนวโน้มที่ trend กำลังจะหมดแรง และอาจจะเข้าในรูปแบบการ pull back แทนครับ
#จากรูปที่ 5 ลักษณะการเกิดรูปแบบ throw back และ false throw back ซึ่งเกิดกับหุ้น bgh ครับ
#จากรูปที่ 6 ลักษณะการ pull back เป็นลักษณะการรีบาวด์เพื่อลงต่อดังนั้น การ pull back จะทำ low เพิ่มเติมเสมอครับ และจะไม่ทำ high ใหม่ ซึ่งลักษณะการ pull back นั้นจะเกิดขึ้นในกรณี trend ขาลงครับ
#จากรูปที่ 7 รูปแบบการ pull back ต่อเนื่อง ก่อนจะเปลี่ยน trend ทำการยก low ทำ high เปลี่ยนแนวโน้มทำรูปแบบการรีบาวด์แบบ throw back ซึ่งจะเกิดในช่วง trend bullish
บทความข้างต้นผมเคยเขียนไว้ในเว็บไซต์ เลยนำมารีโพสอีกสักรอบครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น