เด่นสุดกลุ่มแบงก์
ข่าวหุ้น
CLSA ให้ราคาเป้าหมายใหม่แบงก์กรุงไทย 29 บาท ระบุโดดเด่นที่สุดของกลุ่มแบงก์ ราคายังถูกเทียบกับ SCB และหุ้น KBANK ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 และ 4 เติบโตดีจากการปล่อยสินเชื่อให้ภาครัฐ ตั้งสำรองลดลงดันกำไรครึ่งปีหลังพุ่ง
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซี แอล เอส เอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CLSA เปิดเผยว่า แนวโน้มหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ช่วงไตรมาส 3/57 ในเบื้องต้น มองว่า ภาพโดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งนี้หากความชัดเจนด้านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้านต่างๆ มีมากขึ้น เชื่อว่าความเชื่อมั่นจากนักลงทุนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม ส่งผลดีต่อทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม และกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเติบโตตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับหุ้นธนาคารที่โดดเด่นสุดในช่วงไตรมาสสามและสี่ของปีนี้ หุ้น KTB ถือว่าเป็นหุ้นที่มีความโดดเด่นมากที่สุด ทั้งในเรื่องของอัตราการปล่อยสินเชื่อที่เติบโตดีตามนโยบายรัฐ อัตราการสำรองหนี้ปรับตัวลดลง ที่สำคัญราคายังอยู่ในระดับที่ไม่แพงเกินไป เมื่อเทียบกับหุ้นธนาคารอื่น อย่างหุ้น SCB และหุ้น KBANK ที่ราคาปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว
ส่วนหุ้น BBL ราคาหุ้นไม่แพงเกินไปเช่นเดียวกับหุ้น KTB ซึ่งเหมาะลงทุนเช่นกัน แต่ก็ยังไม่โดดเด่นเท่ากับหุ้น KTB เนื่องจากได้อานิสงส์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ธนาคารกรุงไทยถือได้ว่ารับประโยชน์สูงสุด ส่วนราคาเป้าหมายหุ้น KTB อยู่ที่ระดับ 28-29 ล้านบาท
นายไชยยศ จิวางกูร รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ช่วงไตรมาสสามของปีนี้ มองว่า ธุรกิจธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB โดดเด่นที่สุดในอุตสาหกรรม เนื่องจากการตั้งวงเงินสำรองหนี้ของธนาคารช่วงสองไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ มีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมากจากช่วงสองไตรมาสแรกของปี
โดยสองไตรมาสแรกของปีธนาคารตั้งวงงินสำรองฯดังกล่าวสูงถึง 7,000 ล้านบาท แต่ในช่วงสองไตรมาสสุดท้ายของปีวงเงินสำรองฯดังกล่าวลดลง เหลือ 2,500 ล้านบาท และการที่ธนาคารตั้งเงินสำรองฯลดลง ส่งผลให้การทำกำไรปีนี้ของธนาคารโดดเด่นขึ้นตามเช่นกัน
ส่วนกลยุทธ์การลงทุน แนะว่า หุ้น KTB เหมาะกับการลงทุนสูงสุด และภาพของธนาคารกรุงไทยเทียบกับธนาคารอื่นถือว่าโดดเด่นมากสุด นอกจากมีการตั้งสำรองฯลดลงแล้ว ผลกำไรทั้งปีแนวโน้มออกมาดีมาก การรับงานของภาครัฐมีโอกาสได้สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรม
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจธนาคารช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ มองว่า มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา โอกาสที่หุ้นกลุ่มธนาคารทำกำไรเพิ่มขึ้นมีมากเช่นกัน อย่างไรก็ตามแนวโน้มการทำกำไรจะมีมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมภายในประเทศด้วย
สำหรับธนาคารที่โดดเด่นที่สุดในช่วงเดือนที่เหลือของปีนี้ คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เนื่องจากแนวโน้มสินเชื่อมีโอกาสเติบโตค่อนข้างสูง ตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้รับอานิสงส์ดังกล่าวมากที่สุด ประกอบกับการตั้งสำรองหนี้ของธนาคารลดลงไปมาก และแนวโน้มค่าฟีของธนาคารมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก
เครดิต
Thanya Kaew
(ห้องคุยนักลงทุน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น