GAP ช่องว่างของราคา !

1


2


3


4


5


6


7

GAP ช่องว่างของราคา !
GAP คือศัพท์ทางเทคนิคคอลกราฟที่ใช้เรียกลักษณะของราคาที่มีช่องว่างที่เกิดจากแท่งราคา 2 แท่งที่แยกตัวออกห่างกันจึงทำให้ทีช่องว่างช่วงนึงเกิดขึ้น ในบางครั้งก็อาจจะเรียกว่า window ก็ได้ครับ ทั้งนี้การเกิด gap นั้นจะเกิดได้จากสาเหตุการตอบรับในเชิงจิตวิทยาของนักลงทุน เช่นเมื่อมีข่าวดีเข้ามาและนักลงทุนคนส่วนใหญ่ในตลาดมีการตอบรับในเชิงจิตวิทยาในด้านเชิงบวกจึงทำให้ มีการคาดการณ์ว่าราคาปิดตลาดในปัจจุบันนั้นมันต่ำเกินไป เมื่อเปิดตลาดอีกวันจึงทำให้เกิดการคาดหวังและตั้งซื้อในช่วงราคาที่สูงกว่าเดิมครับจึงทำให้เกิด GAP UP นั่นคือกระโดดขึ้น และเช่นเดียวกันหากการตอบรับออกมาในเชิงลบก็จะทำให้มุมมองนักลงทุนเกิดการ panic กังวล และเริ่มตั้งขายทำให้ราคาเกิด GAP DOWN (กระโดดลง) ครับ ดังนั้นการเกิด GAP นั้นจะเกิดต่อเมื่อตลาดได้รับอิทธิพลตอบรับในเชิงจิตวิทยา ซึ่งจะขึ้นหรือลงนั้นย่อมส่งผลมาจากความคิดเห็นส่วนใหญ่ของ MR.MARKET ครับ
# จากรูปที่ 1 คือลักษณะของการเกิด GAP DOWN (กระโดดลง) และ GAP UP (กระโดดขึ้น)
GAP นั้นแบ่งออกได้ 4 ประเภทครับ
1. COMMON GAP
2. BREAKAWAY GAP
3. RUNAWAY GAP
4.EXHAUSTION GAP
1. ) COMMON GAP เป็นรูปแบบของ GAP ที่เกิดขึ้นในกรอบ TRADING RAGE หรือแนวโน้ม SIDE WAY ครับ ในบางครั้งอาจจะเกิดในช่วงพักตัว หรือ CONSOLIDATE โดยปกตินั้น COMMON GAP จะไม่มีนัยยะสำคัญอันใดเพียงแค่บ่งชี้จิตวิทยาทางราคาเพียงเท่านั้น หรือบางครั้งอาจเพราะมีนักลงทุนบางกลุ่มได้รับข้อมูลที่ไม่จริง ดังนั้น COMMON GAP จึงจะมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง หรือในบางกรณีก็อาจจะมีการปริมาณซื้อขายมากแต่วันต่อมาปริมาณก็ลดลงครับ แะลที่สำคัญ COMMON GAP จะเกิดเพียงในกรอบแนวโน้ม SIDE WAY ที่มีกรอบแนวต้านและแนวรับครับ
# จากรูปที่ 2 คือ COMMON GAP DOWN ที่เกิดขึ้นโดยสังเกตได้จากปริมาณที่บางเบาและเป็นการเกิด GAP ที่เกิดบริเวณแนวรับและแนวต้าน ที่แกว่งตัว SIDE WAY ในกรอบครับ
# จากรูปที่ 3 คือ COMMON GAP UP ที่เกิดขึ้นในกรอบ TRADING RAGE ครับ และมีปริมาณทีเบาบางครับ
2.) BREAKAWAY GAP คือ GAP ที่เกิดขึ้นบริเวณแนวต้านและแนวรับ โดยลักษณะจะทำการกระโดดทำ GAP ขึ้นทะลุผ่านบริเวณแนวต้าน หรือกระโดดทำ GAP DOWN ทะลุลงบริเวณแนวรับครับ การเกิด BREAKAWAY GAP นั้นหากเกิดขึ้นจากการตอบรับเชิงบวกก็จะเกิดการกระโดดทำ GAP UP ผ่านแนวต้านขึ้นไปครับ แตกต่างจาก COMMON GAP นะครับที่ COMMON GAP นั้นจะเกิดขึ้นในกรอบแนวต้านแนวรับ แต่ BREAKAWAY GAP นั้นจะเกิดขึ้นก็เมื่อกระโดดทะลุแนวต้านขึ้น หรือไม่ก็กระโดดทะลุแนวรับลงมาครับ และที่สำคัญการเกิด BREAKAWAY GAP นั้นจะกระโดดผ่านแนวต้านขึ้น หรือกระโดดผ่าแนวรับลงก็จะมี Volume หรือปริมาณการซื้อขายสนับสนุนเสมอครับ หากเกิดเราเห็นกราฟที่เกิดลักษณะแบบนี้จะเรียกว่า BREAKAWAY GAP ครับ ทั้งนี้การเกิด BREAKAWAY GAP นั้นจะเกิดลักษณะ THROW BACK และ PULL BACK ในบางครั้ง ซึ่งลักษณะการเกิด THROW BACK และ PULL BACK นั้นผมเคยเขียนไว้แล้วครับลองหาอ่านศึกษากันได้ การเกิด THROW BACK นั้นจะเกิดก็ต่อเมื่อเกิดการ BREAKAWAY GAP UP ราคากระโดดผ่านแนวต้านขึ้นไปและมี VOLUME สนับสนุนวันต่อมาราคาจะเกิดการ TEST LOW และย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับของ GAP ครับ ดังนั้นหากเกิดกรณีแบบนี้ราคาห้ามปรับตัวลงมาปิด GAP เด็ดขาดไม่อย่างนั้นจะเกิดการปรับตัวลงต่อเนื่อง สรุปแล้วหากเกิด BREAKAWAY GAP UP ราคาต้องกระโดดผ่านแนวต้านและมีปริมาณสนับสนุนวันต่อมาหากเกิดการย่อตัวราคาห้ามลงมาปิด GAP หากราคาไม่ปิด GAP และสามารถ THROW BACK กลับขึ้นไปได้จะเป็นลักษณะยืนยันว่าจะเป็นขาขึ้นต่อเต็มตัวครับ เช่นเดียวกันกับกรณี BREAKAWAY GAP DOWN ราคากระโดดผ่านแนวรับลงมาแล้วมี VOLUME สนับสนุนต่อมาเกิดการ PULL BACK กลับขึ้นไปทดสอบแนวรับที่พึ่งหลุดมาซึ่งเป็นแนวต้านให้เราหากราคาสามารถกลับขึ้นไปแล้วปิด GAP ได้จะเป็นลักษณะกลับตัวขึ้นต่อแต่หากราคาไม่สามารถขึ้นไปปิด GAP ได้ลักษณะแบบนี้จะยืนยันการเกิด BREAKAWAY GAP DOWN ครับ
# รูปที่ 4 กรณีรูปแบบการปิด GAP
# รูปที่ 5 รูปแบบการเกิด BREAKAWAY GAP UP ราคากระโดดขึ้นผ่านแนวต้านและมีปริมาณมากขึ้นสนับสนุนทิศทางที่กระโดดขึ้นครับ ในรูปนี้ผมทำ GAP รูปแบบอื่นมาให้ดูด้วยครับการเกิด RUNAWAY GAP จะเกิดหลังจากการเกิด BREAK AWAY GAP เสมอครับเพื่อสนับสนุนทิศทางของราคาและ TREND
3.) RUNAWAY GAP เรียกได้อีกอย่างคือ CONTINUATION GAP ซึ่งเป็น GAP ที่เกิดขึ้นหลังจากเกิด BREAKAWAY GAP ครับ โดย RUNAWAY GAP นั้นจะเป็นความต่อเนื่องของราคาและบอก TREND ว่ายังคงแข็งแกร่งมีกำลังซื้อเข้ามามากมาย โดย RUNAWAY GAP นั้นจะมี VOLUME เพิ่มขึ้นสนับสนุนการเกิดเสมอครับ แต่ในบางครั้งหลังจากเกิด BREAKAWAY GAP แล้วก็อาจจะไม่เกิด RUNAWAY GAP ก็ได้ครับ
# รูปที่ 6 การเกิด RUNAWAY GAP จะเกิดขึ้นเพื่อบ่งบอกความต่อเนื่องของราคาดังนั้นเราจะได้ผม RUNAWAY GAP หลังจากเกิดการ BREAKAWAY GAP ครับ และ RUNAWAY GAP นั้นปริมาณต้องสนับสนุนเสมอ หากเกิดรูปแบบ RUNAWAY GAP ที่กระโดดขึ้นต่อเนื่องแต่ VOLUME ไม่สนับสนุนหรือหายไป แบบนั้นเราจะเรียกว่า EXHAUSTION GAP ซึ่งผมจะอธิบายในรูปถัดไปครับ
4.) EXHAUSTION GAP มีลักษณะที่กระโดดขึ้นหรือลงก็ได้ แต่ปริมาณการซื้อและขายไม่สนับสนุนตามทิศทางการเกิด GAP ลักษณะแบบนี้เราจะเรียกว่า EXHAUSTION GAP ครับ ซึ่ง EXHAUSTION GAP นี้อาจจะเกิดหลังจากการเกิด BREAKAWAY GAP ก็ได้ครับ เช่น เกิดการกระโดด GAP UP ทะลุแนวต้านขึ้นไปและต่อมาราคากลับวกลงมาปิด GAP แบบนี้แหละครับเราเรียกว่า EXHAUSTION GAP ซึ่งหากราคาวกลงมาแล้วไม่ปิด GAP เราจะยืนยันว่ามันคือ BREAKAWAY GAP แต่หากราคาวกกลับลงมาปิดได้แบบนี้เรีกยว่า EXHAUSTION GAP ครับ ต่อมา EXHAUSTION GAP ก็จะเกิดขึ้นได้หลังจากเกิด BREAKAWAY ได้เช่นกันครับ เช่นหลังจากเกิดการ BREAKAWAY GAP UP แล้วราคาเดินหน้าขึ้นต่อจนเกิดการกระโดดทำท่าคลับคล้าย RUNAWAY GAP แต่ VOLUME ไม่สนับสนุนดูเบาบางแบบนี้แหละครับเราจะไม่เรียกว่า RUNAWAY เราจะเรียกว่า EXHAUSTION GAP ซึ่งจะลักษณะคล้ายๆ RUNAWAY GAP เลยเพียงแค่ VOLUME และปริมาณไม่สนับสนุนและสอดคล้องกันครับ
# รูปที่ 7 คือรูปแบบการเกิด EXHAUSTION GAP ครับซึ่งราคาคลับคล้ายจะทำ RUNAWAY GAP แต่ต่อมาปริมาณการซื้อขายกลับมาบางลงไม่มี VOLUME สนับสนุนและเมื่อเกิดการปิด GAP ได้ หน้าต่างถูกปิดลง จึงยืนยันการเกิด EXHAUSTION GAP ครับ กรณีขาขึ้นนั้น EXHAUSTION GAP เปรียบเสมือนตัวบ่งชี้จังหวะลง แต่ในกรณีขาลงนั้นเมื่อราคาหลุดลงไปแล้วเกิดการกลับมาปิด GAP ได้นั้น EXHAUSTION GAP นั้นจะทำหน้าที่บ่งบอกจังหวะกลับตัวให้เราได้
ทั้งหมดคือ ความรู้ในเรื่อง GAP ซึ่งนักเทคนิคและนักลงทุน รวมถึงเทรดเดอร์ทุกคนควรรู้ครับ และท่านจะได้พบเจอเจ้า GAP นี่เสมอ ดังนั้นฝึกวิเคราะห์และอ่านจิตวิทยาประกอบไปด้วย แล้วท่านจะประสบผลสำเร็จครับ

เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น