พื้นฐานหุ้นไทยแกร่ง!!
โดย อินเด็กซ์ 51

ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,564.58 จุด เพิ่มขึ้น 4.41 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 44,848.96 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 419.32 ล้านบาท

หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด TRUE ปิด 10.60 บาท ลดลง 0.10 บาท, ICHI ปิด 25.75 บาท ลบ 0.75 บาท, SAPPE ปิด 35.75 บาท บวก 4.25 บาท, BBL ปิด 206 บาท บวก 3 บาท และ SST ปิด 27.50 บาท บวก 0.50 บาท

งานสัมมนาผู้ลงทุนสถาบันและนักวิเคราะห์ระดับนานาชาติ “ไทยแลนด์ โฟกัส 2014” กระหึ่มขึ้นแล้วคึกคักไปด้วยผู้จัดการกองทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันประเทศเพียบพร้อมไปด้วยข้อมูลข่าวสาร ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและนโยบายของ คสช.ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติ

ถือเป็นอีกความหวังหนึ่งที่จะต่อยอดดัชนีหุ้นไทยให้เข้มแข็งและปรับตัวขึ้นได้อย่างมั่นคง!!

“สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าอัตราการเติบโตกำไรสุทธิ (Earnings Growth) ของบริษัทจดทะเบียนปีหน้าจะอยู่ที่ 12% เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตในระดับ 9% เนื่องจากมีรัฐบาลใหม่ทำให้มีการเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจเติบโต คาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะโต 5-5.5% ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นก็จะส่งผลดีกับบริษัทในตลาดหุ้น ให้มีรายได้มากขึ้นและมีกำไรเติบโตที่ดี ซึ่งจะส่งผลทำให้เป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

ขณะที่ “เกศรา มัญชุศรี” ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย บอกนักลงทุนต่างชาติยังคงเชื่อมั่นพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนไทย โดยบริษัทจดทะเบียนไทยมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีเงินสดเฉลี่ยกว่า 7% ของสินทรัพย์ ขณะที่มีเงินสดที่มีศักยภาพในการชำระดอกเบี้ยได้ถึง 6-7 เท่า ดังนั้น พิสูจน์ได้ว่าพื้นฐานของบริษัทไทยยังแข็งแกร่งสะท้อนได้จากกำไรไตรมาส 2 ของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตกว่า 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนแม้จะมีปัญหาการเมือง เพราะบริษัทส่วนใหญ่มีธุรกิจทั้งในและต่างประเทศทำให้กระจายความเสี่ยงได้

เชื่อว่าหลังจากนี้ นักลงทุนต่างชาติอยากเห็นการเริ่มปฏิบัติของแผนต่างๆที่ คสช.ประกาศไว้มากกว่า หากทำได้จริงก็น่าจะทำให้เม็ดเงินจาก ต่างชาติไหลกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มได้อีก

ส่วนปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎอัยการศึกนั้นไม่กระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเพราะกองทุนเหล่านี้น่าจะให้ความสำคัญกับผลตอบแทนที่จะได้รับมากกว่า แต่กฎอัยการศึกอาจเป็นอุปสรรคกับกองทุนบางประเทศที่มีข้อห้ามการลงทุน แต่น่าจะมีน้อยมาก โดยผู้จัดการกองทุนที่มาร่วมงานไทยแลนด์โฟกัสส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่รู้จักและเข้าใจประเทศไทยและมีการลงทุนในไทยมานานแล้ว จึงไม่น่ามีผลกระทบ!!

เครดิต
ห้องคุยนักลงทุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น