หุ้นต่ำสิบ

หุ้นต่ำสิบ
โมนิก้า ข่าวหุ้น
*บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้ เหมือนจะตื่นเต้นเร้าใจ สุดสวิง ริงโก อีโต้บาน แต่พอถึงคิวปิดรายการกลับกลายเป็นว่า “แรงไม่จริง” เพราะกองทุนในประเทศยังเป็นคนที่ขายหุ้นหนักสุด และยังเป็นนักลงทุนที่เปลี่ยนท่าทีเร็วมาก ทั้งที่วันก่อนให้สัมภาษณ์กันเย้วๆ นี่เป็นจังหวะของการสะสมหุ้น แต่เผลอแป๊บเดียวเทขายหุ้นออกมาอย่างถล่มทลาย และส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวตุปัดตุเป๋..มันทำให้ฟิลลิ่งของเดี๊ยนแย่ลงนะคะ

*เนื่องจากตามตำราที่ “โมนิก้า” ร่ำเรียนมาจากอาจารย์หลายสำนักพบว่า ทุกครั้งที่แรงเทขายมาพบกับแรงซื้อ และเกิดรายการ “ชักกะเย่อ” ขึ้นในระหว่างวัน ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ที่ปรากฏออกมาก็คือ หุ้นลงมากกว่าขึ้น!!..เดี๊ยนถึงรู้สึกเบื่อหน่ายที่ดัชนีแสดงอาการอ่อนแอให้เห็นเป็นระยะ และทำให้แนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,600 จุด เป็นด่านปราการสำคัญที่จะยากฝ่าขึ้นไปได้นะคะ

*ผนวกกับดัชนีอยู่ในช่วงแกว่งตัวย่ำฐานมานานหลายวัน ก็เลยทำให้หุ้นหลายตัวอาจดูแพงเกินไปในสายตานักลงทุนสถาบัน และแนวทางที่ดีสุดของการปฏิบัติตัวในรอบนี้ก็คือ “ขายไว้ก่อน..ผู้จัดการกองทุนสอนไว้” วินาทีนี้อย่าถามว่าหุ้นตัวไหนจะโดดเด่น เพราะในช่วงของการเปลี่ยนถ่ายแรงซื้อ หุ้นต่ำสิบจะมีบทบาทมากขึ้น! ขณะที่หุ้นบลูชิพจะโดนกระหน่ำทิ้งชั่วคราวเจ้าค่ะ

*สำหรับรายแรกที่ “โมนิก้า” พูดถึงเป็นประจำก่อนหน้านี้ก็คือ FSMART และ CHO เหล่านี้เป็นหุ้นที่ค่อนข้างมีบทบาท และมีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน แถมบางตัวยังมีสตอรี่เรื่องผลกำไรคอยหนุนหลังตลอดเวลา เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนปรับเปลี่ยนมาเล่นหุ้นเหล่านี้เป็นการชั่วคราว เพราะยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะเลยทีเดียว...เดี๋ยวจะหาว่า มีอะไรดี..แล้วไม่บอกนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ MAX มองในมุมของสตอรี่ไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คอนเซ็ปต์การกดหุ้นไม่ให้ทะยานขึ้นแรง เพื่อเก็บของให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการยังดำเนินต่อไป “โมนิก้า” ถือเป็นเหตุการณ์ต้องติดตามดูต่อไปเรื่อยๆ และบอกได้แค่ว่า เป็นหุ้นที่เหมาะต่อการลงทุนระยะกลาง คอนเซ็ปต์การทำธุรกิจรู้อยู่แล้วจะออกมาเป็นแบบไหน การที่หุ้นปิดที่ระดับ 0.92 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลบไป 3.16% ถือเป็นจังหวะในการเข้าไปลงทุนเพื่ออนาคตนะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องสตอรี่ดีๆ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น AJD ของคุณพี่ “อมร” ขึ้นมาในทันที ธุรกิจของบริษัทกำลังโตวันโตคืน ไม่ว่าจะเป็นกล่องทีวีดิจิตอล ธุรกิจภาพยนตร์ที่ประมาณการายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท หรือแม้กระทั่งธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ล้วนเป็นกิมมิคที่หนุนให้หุ้นไต่ระดับสูงขึ้น แรงไล่ซื้อหุ้นถึงมีเข้ามาเรื่อยๆ ทุกวัน จังหวะนี้ถึงต้องกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง ล่าสุดหุ้นปิดที่ 3.20 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง มันเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คมากๆ ค่ะ

* อุ๊ยตาย..ว๊ายกรี๊ด เมื่อจู่ๆ มีหุ้นอะไรก็ไม่รู้ เทรดอย่างคึกคัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏหลักฐานอย่างเป็นทางการว่า มีหุ้นตัวนี้อยู่ในตลาด “โมนิก้า” มาอีกทีตอนพรายกระซิบมากระเซ้าเหย้าแหย่ พร้อมกับแนะนำหุ้น GRAND ซึ่งเป็นหุ้นอสังหาฯ ไฟแรงให้รู้จัก จึงลองสืบค้นข้อมูลไปเรื่อยๆ ในที่สุดพบว่า เป็นหุ้นที่มาแว๊บๆ หลังจากนั้นจากไปเงียบๆ มันเป็น “โอกาส” หรือ “ความเสี่ยง” ต้องถามใจตัวเองนะคะ

*เหมือนกับในรายของ DNA มันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า มันไม่มีอะไรต้องเสี่ยง แต่คนส่วนใหญ่ยังกล้าเสี่ยง “โมนิก้า” ถือเป็นความชอบของแต่ละคน ไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพียงแต่อยากเตือนไว้นิดหนึ่งว่า “พลาดห้ามร้อง” ล่าสุดหุ้นปิดที่ 11.60 บาท ลบไป 1.10 บาท มันเป็นสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายจริงๆ จากหุ้นที่มีมูลค่าแค่ 3 บาท บัดนี้กลายเป็นหุ้นมูลค่า 10 บาทอัพ ทั้งที่ทุกอย่างยังร่อแร่ บอกตรงๆ “สยิวปนสยอง” อิอิอิ

*ส่วนรายที่โหดสุดๆ เกินคำบรรยาย “โมนิก้า” ขอยกให้กับ TIES มองในมุมของพวกชอบลุยไฟ ไม่หวั่นแม้วันมามาก มันทำให้เดี๊ยนรู้สึกกังวลใจอย่างแรง ตัวบริษัทมีผลขาดทุนเกรอะกรัง ส่วนทุนหดหายจนถึงขั้นวิกฤติ และหนทางแก้ไขปัญหาที่ดูดีสุดคงหนีไม่พ้นการเพิ่มทุน 1 หุ้นเดิม ต่อ 5.50 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อหุ้นละ 0.20 บาท จึงทำให้เดี๊ยนถึงบางอ้อในทันทีว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.50 บาท บวกไป 0.10 บาท ไงหละคะ

*เหมือนกับในรายของ VNG ทำรายย่อยรวยมาก็เยอะ ทำเจ๊งมาก็ไม่น้อย “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่ต้องเฝ้าระวัง และต้องจับตาดูเจ้ามือให้ดีๆ ว่าจะดันขึ้นไปยืนสองหลักหรือเปล่า? คอนเซ็ปต์การสร้างสตอรี่เที่ยวนี้มาเล่นเรื่องเทิร์นอะราวด์ล้วนๆ จึงต้องเสี่ยงทายกันเอาเองว่า ใครจะได้ ใครจะเสีย เพราะเจ้ากุมหุ้นต้นทุนต่ำไว้หมดแล้ว แถมดูดหุ้นออกจากตลาด เพื่อเปิดทางการทำราคาแบบนี้..งานนี้มีหนาว P/E 50 เท่า และ P/BV 2.50 เท่า..เทียบกับราคาปิดที่ 8.60 บาท คุ้มกับที่เสี่ยงไหม?
*เนื่องจากตามตำราที่ “โมนิก้า” ร่ำเรียนมาจากอาจารย์หลายสำนักพบว่า ทุกครั้งที่แรงเทขายมาพบกับแรงซื้อ และเกิดรายการ “ชักกะเย่อ” ขึ้นในระหว่างวัน ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ที่ปรากฏออกมาก็คือ หุ้นลงมากกว่าขึ้น!!..เดี๊ยนถึงรู้สึกเบื่อหน่ายที่ดัชนีแสดงอาการอ่อนแอให้เห็นเป็นระยะ และทำให้แนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,600 จุด เป็นด่านปราการสำคัญที่จะยากฝ่าขึ้นไปได้นะคะ
*ผนวกกับดัชนีอยู่ในช่วงแกว่งตัวย่ำฐานมานานหลายวัน ก็เลยทำให้หุ้นหลายตัวอาจดูแพงเกินไปในสายตานักลงทุนสถาบัน และแนวทางที่ดีสุดของการปฏิบัติตัวในรอบนี้ก็คือ “ขายไว้ก่อน..ผู้จัดการกองทุนสอนไว้” วินาทีนี้อย่าถามว่าหุ้นตัวไหนจะโดดเด่น เพราะในช่วงของการเปลี่ยนถ่ายแรงซื้อ หุ้นต่ำสิบจะมีบทบาทมากขึ้น! ขณะที่หุ้นบลูชิพจะโดนกระหน่ำทิ้งชั่วคราวเจ้าค่ะ
*สำหรับรายแรกที่ “โมนิก้า” พูดถึงเป็นประจำก่อนหน้านี้ก็คือ FSMART และ CHO เหล่านี้เป็นหุ้นที่ค่อนข้างมีบทบาท และมีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน แถมบางตัวยังมีสตอรี่เรื่องผลกำไรคอยหนุนหลังตลอดเวลา เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนปรับเปลี่ยนมาเล่นหุ้นเหล่านี้เป็นการชั่วคราว เพราะยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะเลยทีเดียว...เดี๋ยวจะหาว่า มีอะไรดี..แล้วไม่บอกนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ MAX มองในมุมของสตอรี่ไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คอนเซ็ปต์การกดหุ้นไม่ให้ทะยานขึ้นแรง เพื่อเก็บของให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการยังดำเนินต่อไป “โมนิก้า” ถือเป็นเหตุการณ์ต้องติดตามดูต่อไปเรื่อยๆ และบอกได้แค่ว่า เป็นหุ้นที่เหมาะต่อการลงทุนระยะกลาง คอนเซ็ปต์การทำธุรกิจรู้อยู่แล้วจะออกมาเป็นแบบไหน การที่หุ้นปิดที่ระดับ 0.92 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลบไป 3.16% ถือเป็นจังหวะในการเข้าไปลงทุนเพื่ออนาคตนะจะบอกให้
*เม้าท์ถึงเรื่องสตอรี่ดีๆ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น AJD ของคุณพี่ “อมร” ขึ้นมาในทันที ธุรกิจของบริษัทกำลังโตวันโตคืน ไม่ว่าจะเป็นกล่องทีวีดิจิตอล ธุรกิจภาพยนตร์ที่ประมาณการายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท หรือแม้กระทั่งธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ล้วนเป็นกิมมิคที่หนุนให้หุ้นไต่ระดับสูงขึ้น แรงไล่ซื้อหุ้นถึงมีเข้ามาเรื่อยๆ ทุกวัน จังหวะนี้ถึงต้องกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง ล่าสุดหุ้นปิดที่ 3.20 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง มันเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คมากๆ ค่ะ
* อุ๊ยตาย..ว๊ายกรี๊ด เมื่อจู่ๆ มีหุ้นอะไรก็ไม่รู้ เทรดอย่างคึกคัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏหลักฐานอย่างเป็นทางการว่า มีหุ้นตัวนี้อยู่ในตลาด “โมนิก้า” มาอีกทีตอนพรายกระซิบมากระเซ้าเหย้าแหย่ พร้อมกับแนะนำหุ้น GRAND ซึ่งเป็นหุ้นอสังหาฯ ไฟแรงให้รู้จัก จึงลองสืบค้นข้อมูลไปเรื่อยๆ ในที่สุดพบว่า เป็นหุ้นที่มาแว๊บๆ หลังจากนั้นจากไปเงียบๆ มันเป็น “โอกาส” หรือ “ความเสี่ยง” ต้องถามใจตัวเองนะคะ
*เหมือนกับในรายของ DNA มันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า มันไม่มีอะไรต้องเสี่ยง แต่คนส่วนใหญ่ยังกล้าเสี่ยง “โมนิก้า” ถือเป็นความชอบของแต่ละคน ไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพียงแต่อยากเตือนไว้นิดหนึ่งว่า “พลาดห้ามร้อง” ล่าสุดหุ้นปิดที่ 11.60 บาท ลบไป 1.10 บาท มันเป็นสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายจริงๆ จากหุ้นที่มีมูลค่าแค่ 3 บาท บัดนี้กลายเป็นหุ้นมูลค่า 10 บาทอัพ ทั้งที่ทุกอย่างยังร่อแร่ บอกตรงๆ “สยิวปนสยอง” อิอิอิ
*ส่วนรายที่โหดสุดๆ เกินคำบรรยาย “โมนิก้า” ขอยกให้กับ TIES มองในมุมของพวกชอบลุยไฟ ไม่หวั่นแม้วันมามาก มันทำให้เดี๊ยนรู้สึกกังวลใจอย่างแรง ตัวบริษัทมีผลขาดทุนเกรอะกรัง ส่วนทุนหดหายจนถึงขั้นวิกฤติ และหนทางแก้ไขปัญหาที่ดูดีสุดคงหนีไม่พ้นการเพิ่มทุน 1 หุ้นเดิม ต่อ 5.50 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อหุ้นละ 0.20 บาท จึงทำให้เดี๊ยนถึงบางอ้อในทันทีว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.50 บาท บวกไป 0.10 บาท ไงหละคะ
*เหมือนกับในรายของ VNG ทำรายย่อยรวยมาก็เยอะ ทำเจ๊งมาก็ไม่น้อย “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่ต้องเฝ้าระวัง และต้องจับตาดูเจ้ามือให้ดีๆ ว่าจะดันขึ้นไปยืนสองหลักหรือเปล่า? คอนเซ็ปต์การสร้างสตอรี่เที่ยวนี้มาเล่นเรื่องเทิร์นอะราวด์ล้วนๆ จึงต้องเสี่ยงทายกันเอาเองว่า ใครจะได้ ใครจะเสีย เพราะเจ้ากุมหุ้นต้นทุนต่ำไว้หมดแล้ว แถมดูดหุ้นออกจากตลาด เพื่อเปิดทางการทำราคาแบบนี้..งานนี้มีหนาว P/E 50 เท่า และ P/BV 2.50 เท่า..เทียบกับราคาปิดที่ 8.60 บาท คุ้มกับที่เสี่ยงไหม?*เนื่องจากตามตำราที่ “โมนิก้า” ร่ำเรียนมาจากอาจารย์หลายสำนักพบว่า ทุกครั้งที่แรงเทขายมาพบกับแรงซื้อ และเกิดรายการ “ชักกะเย่อ” ขึ้นในระหว่างวัน ผลลัพธ์ส่วนใหญ่ที่ปรากฏออกมาก็คือ หุ้นลงมากกว่าขึ้น!!..เดี๊ยนถึงรู้สึกเบื่อหน่ายที่ดัชนีแสดงอาการอ่อนแอให้เห็นเป็นระยะ และทำให้แนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1,600 จุด เป็นด่านปราการสำคัญที่จะยากฝ่าขึ้นไปได้นะคะ

*ผนวกกับดัชนีอยู่ในช่วงแกว่งตัวย่ำฐานมานานหลายวัน ก็เลยทำให้หุ้นหลายตัวอาจดูแพงเกินไปในสายตานักลงทุนสถาบัน และแนวทางที่ดีสุดของการปฏิบัติตัวในรอบนี้ก็คือ “ขายไว้ก่อน..ผู้จัดการกองทุนสอนไว้” วินาทีนี้อย่าถามว่าหุ้นตัวไหนจะโดดเด่น เพราะในช่วงของการเปลี่ยนถ่ายแรงซื้อ หุ้นต่ำสิบจะมีบทบาทมากขึ้น! ขณะที่หุ้นบลูชิพจะโดนกระหน่ำทิ้งชั่วคราวเจ้าค่ะ*สำหรับรายแรกที่ “โมนิก้า” พูดถึงเป็นประจำก่อนหน้านี้ก็คือ FSMART และ CHO เหล่านี้เป็นหุ้นที่ค่อนข้างมีบทบาท และมีอะไรที่น่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน แถมบางตัวยังมีสตอรี่เรื่องผลกำไรคอยหนุนหลังตลอดเวลา เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนปรับเปลี่ยนมาเล่นหุ้นเหล่านี้เป็นการชั่วคราว เพราะยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะเลยทีเดียว...เดี๋ยวจะหาว่า มีอะไรดี..แล้วไม่บอกนะคะ*เช่นเดียวกับในรายของ MAX มองในมุมของสตอรี่ไม่มีอะไรน่ากังวล ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คอนเซ็ปต์การกดหุ้นไม่ให้ทะยานขึ้นแรง เพื่อเก็บของให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการยังดำเนินต่อไป “โมนิก้า” ถือเป็นเหตุการณ์ต้องติดตามดูต่อไปเรื่อยๆ และบอกได้แค่ว่า เป็นหุ้นที่เหมาะต่อการลงทุนระยะกลาง คอนเซ็ปต์การทำธุรกิจรู้อยู่แล้วจะออกมาเป็นแบบไหน การที่หุ้นปิดที่ระดับ 0.92 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลบไป 3.16% ถือเป็นจังหวะในการเข้าไปลงทุนเพื่ออนาคตนะจะบอกให้*เม้าท์ถึงเรื่องสตอรี่ดีๆ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น AJD ของคุณพี่ “อมร” ขึ้นมาในทันที ธุรกิจของบริษัทกำลังโตวันโตคืน ไม่ว่าจะเป็นกล่องทีวีดิจิตอล ธุรกิจภาพยนตร์ที่ประมาณการายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท หรือแม้กระทั่งธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ล้วนเป็นกิมมิคที่หนุนให้หุ้นไต่ระดับสูงขึ้น แรงไล่ซื้อหุ้นถึงมีเข้ามาเรื่อยๆ ทุกวัน จังหวะนี้ถึงต้องกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง ล่าสุดหุ้นปิดที่ 3.20 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง มันเป็นอะไรที่เพอร์เฟ็คมากๆ ค่ะ* อุ๊ยตาย..ว๊ายกรี๊ด เมื่อจู่ๆ มีหุ้นอะไรก็ไม่รู้ เทรดอย่างคึกคัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏหลักฐานอย่างเป็นทางการว่า มีหุ้นตัวนี้อยู่ในตลาด “โมนิก้า” มาอีกทีตอนพรายกระซิบมากระเซ้าเหย้าแหย่ พร้อมกับแนะนำหุ้น GRAND ซึ่งเป็นหุ้นอสังหาฯ ไฟแรงให้รู้จัก จึงลองสืบค้นข้อมูลไปเรื่อยๆ ในที่สุดพบว่า เป็นหุ้นที่มาแว๊บๆ หลังจากนั้นจากไปเงียบๆ มันเป็น “โอกาส” หรือ “ความเสี่ยง” ต้องถามใจตัวเองนะคะ*เหมือนกับในรายของ DNA มันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า มันไม่มีอะไรต้องเสี่ยง แต่คนส่วนใหญ่ยังกล้าเสี่ยง “โมนิก้า” ถือเป็นความชอบของแต่ละคน ไม่ขอพูดอะไรมากไปกว่านี้ เพียงแต่อยากเตือนไว้นิดหนึ่งว่า “พลาดห้ามร้อง” ล่าสุดหุ้นปิดที่ 11.60 บาท ลบไป 1.10 บาท มันเป็นสถานการณ์ที่เหนือความคาดหมายจริงๆ จากหุ้นที่มีมูลค่าแค่ 3 บาท บัดนี้กลายเป็นหุ้นมูลค่า 10 บาทอัพ ทั้งที่ทุกอย่างยังร่อแร่ บอกตรงๆ “สยิวปนสยอง” อิอิอิ*ส่วนรายที่โหดสุดๆ เกินคำบรรยาย “โมนิก้า” ขอยกให้กับ TIES มองในมุมของพวกชอบลุยไฟ ไม่หวั่นแม้วันมามาก มันทำให้เดี๊ยนรู้สึกกังวลใจอย่างแรง ตัวบริษัทมีผลขาดทุนเกรอะกรัง ส่วนทุนหดหายจนถึงขั้นวิกฤติ และหนทางแก้ไขปัญหาที่ดูดีสุดคงหนีไม่พ้นการเพิ่มทุน 1 หุ้นเดิม ต่อ 5.50 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อหุ้นละ 0.20 บาท จึงทำให้เดี๊ยนถึงบางอ้อในทันทีว่า นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.50 บาท บวกไป 0.10 บาท ไงหละคะ*เหมือนกับในรายของ VNG ทำรายย่อยรวยมาก็เยอะ ทำเจ๊งมาก็ไม่น้อย “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่ต้องเฝ้าระวัง และต้องจับตาดูเจ้ามือให้ดีๆ ว่าจะดันขึ้นไปยืนสองหลักหรือเปล่า? คอนเซ็ปต์การสร้างสตอรี่เที่ยวนี้มาเล่นเรื่องเทิร์นอะราวด์ล้วนๆ จึงต้องเสี่ยงทายกันเอาเองว่า ใครจะได้ ใครจะเสีย เพราะเจ้ากุมหุ้นต้นทุนต่ำไว้หมดแล้ว แถมดูดหุ้นออกจากตลาด เพื่อเปิดทางการทำราคาแบบนี้..งานนี้มีหนาว P/E 50 เท่า และ P/BV 2.50 เท่า..เทียบกับราคาปิดที่ 8.60 บาท คุ้มกับที่เสี่ยงไหม?


เครดิต
Wasana Kittipornnont
(ห้องคุยนักลงทุน)
http://cool-hobby.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น