โบรกฯ มองสัปดาห์หน้าหุ้นไทยขยับกรอบแคบ

โบรกฯ มองสัปดาห์หน้าหุ้นไทยขยับกรอบแคบ รอผลการประชุมเฟด แนะทยอยซื้อกลุ่มรับเหมา-ท่องเที่ยว-อาหาร
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 ก.ย. 57
โบรกฯ คาด ช่วงต้นสัปดาห์หน้า หุ้นไทยแกว่งตัวกรอบแคบ รอดูผลการประชุมเฟดต่อทิศทางดอกเบี้ย - ลุ้นยุโรปใช้ QE กระตุ้นศก. ขณะที่ในปท.ยังไม่มีข่าวลบ ดัชนีฯ มีลุ้นทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด แนะหาจังหวะซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของศก.ในประเทศ ประเมินแนวรับ 1,560 จุด
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยยังคงอยู่ในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 17-18 ก.ย. นี้ ต่อทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่หลายฝ่ายกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นเร็วกว่าคาด ซึ่งปัจจุบัน เฟดเริ่มทยอยยุติมาตราการ QE อย่างไรก็ตามเฟดต้องมองพื้นฐานทางเศรษฐกิจว่าตัวเลขเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวนั้นน่าพอใจแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นอัตราการว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ และความสามารถในการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ยังมองว่าธนาคารกลางยุโรปมีโอกาสจะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยมาตรการ QE หลังจากที่ล่าสุดกระตุ้นด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจนอยู่ระดับ 0.05% แต่ปัญหาภาวะเงินฝืดก็ยังคงกดดันอย่างต่อเนื่อง
ส่วนปัจจัยในประเทศ แม้ว่าการเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังต้องจับตาว่าการดำเนินการต่าง ๆ ในการผลักดันเศรษฐกิจจะดำเนินการได้มากน้อยเพียงใด มีประสิทธิภาพหรือไม่
สำหรับสัปดาห์หน้า คาดช่วงต้นสัปดาห์ หุ้นไทยจะยังคงแกว่งตัวผันผวนกรอบแคบ เพื่อรอดูความชัดเจนของผลการประชุดเฟด ต่อถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยเลน ว่าจะส่งสัญญาณอะไรออกมากดดันหรือไม่ ซึ่งถ้าหากไม่มีอะไรเหนือความคาดหมาย ดัชนีฯ อาจจะสามารถทะลุ 1,600 จุดได้ เพราะคาดการณ์ว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วงกลางปีหน้า
ส่วนปัจจัยในประเทศ แม้ว่ามูลค่าของตลาดหุ้นไทยค่อนข้างสูง แต่ยังไม่มีข่าวร้ายอะไรเข้ามากระทบ รวมถึงสภาพคล่องที่มีอยู่สูง จะเป็นตัวผลักดันให้ดัชนียังสามารถขยับบวกได้ต่อเนื่อง ดังนั้น ยังคงมุมมองทางบวกมากกว่า
ด้านกลยุทธ์ แนะทยอยซื้อหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก อาทิ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มสินค้าอาหาร - ส่งออก โดยประเมินแนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,600 จุด

เครดิต

Preyanude Manapunpong
(ห้องคุยนักลงทุน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น