ผมอยากจะคาดการณ์ตลาดหรือไม่ก็รับรู้สภาวะเศรษฐกิจก่อนล่วงหน้าได้

     ผมอยากจะคาดการณ์ตลาดหรือไม่ก็รับรู้สภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะตกต่ำก่อนล่วงหน้าได้เพื่อที่จะสามารถปรับตัวให้ทัน และตั้งรับวางกลยุทธ์ แต่ความเป็นจริงๆแล้ว ผมไม่สามารถที่จะทำมันได้ ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ สัปดาห์นี้ เดือนนี้ ปีนี้จะเกิดอะไร และมันยากที่จากคาดการณ์ได้เป๊ะๆ ในบางกรณีตลาดปรับตัวขึ้นแต่คุณมีหุ้นผิดตัวคุณก็ยังผิด ในบางครั้งตลาดปรับตัวลงแต่คุณมีหุ้นถูกตัวคุณก็ยังมีกำไร หากคุณพึ่งพาตลาดเพื่อใช้ในการลากหุ้นมากเกินไป คุณก็ควรจะเดินเข้าบ่อนคาสิโนจะดีกว่า อาจจะมีโอกาสถูกมากกว่าผิด หุ้นที่ต้องอาศัยตลาดผมใช้ลักษณะการแบ่งกลุ่มจะมีเพียง 9 ตัวเท่านั้นที่สามารถอ้างอิงตลาดได้ นอกเหนือจากนั้นคือหุ้นที่ไม่จำเป็นต้องอ้างอิงการลากของดัชนี index เลย ดัชนี index จะขึ้นได้มันก็จะมีหุ้นแค่ 9 ตัวที่จะทำ หากตลาดปรับตัวขึ้นแต่หุ้น ชุด A ไม่ขึ้นนั่นคือสัญญาณของการลากของกองทุน หากหุ้นชุด A ขึ้นสลับตัวนั่นคือสัญญาณการลากของกองทุนหรืออาจจะมีฝรั่งเข้ามาเก็งกำไรแค่เพียงสั้นๆ หากหุ้นชุด D ขึ้น จำพวก small cap. ตลาดจะไม่พึ่งพา index แต่จะเข้าสู่สภาวะการเก็งกำไรเต็มตัว และมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการล้มโต๊ะ ในบางกรณีเหล่านักลงทุนรวมถึงนักวิเคราะห์ชอบพูดว่าตลาดแพงเกินไป และใช้ P/E เป็นตัววัดมูลค่า แต่ตลาดหุ้นมันเปรียบเทียบกันได้จริงหรือ ? เอา P/E ตลาดเราไปเทียบได้จริงหรือว่าถูกหรือแพง ? ในเมื่อ 1.ตลาดหุ้นแต่ละประเทศแต่ละภูมิภาคมันมีขนาดไม่เท่ากันแล้วตลาดหุ้นไทยดีพอหรือยังที่จะใช้นำ P/E ไปเทียบกับตลาดอื่น 2.หุ้นในบางอุตสาหกรรมของเรายังมีความได้เปรียบน้อยเมื่อเทียบกับกลุ่มเดียวกันของตลาดเพื่อนบ้าน 3.หุ้นประเทศเราเอื้อต่อหุ้นตัวใหญ่ใช้งานหุ้นชุด A มากเกินไปมันเพียงพอที่จะวัดมูลค่ากันได้หรือ 4.ตลาดหุ้นไทยมีกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานที่เป็นหลักมันเหมือนกับตลาดเพื่อนบ้านไหม 5.แน่นอนว่าเราจะอยู่ในกลุ่ม TIP ที่มี ไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย กลุ่มนี้ Fund Flow จะตามๆกัน การเทียบว่า P/E ฟิลิปปินส์นำเราไปแล้ว และอินโดก็นำไปแล้ว มันมั่นใจได้อย่างไรว่าตลาดหุ้นเราจะตามไปจริงๆ หรือบางทีเราอาจจะไปมากกว่าเขาก็ได้ มันน่าคิดนะครับ ต่อมาหากมาลองใช้ P/E หุ้นกลุ่มเดียวกันและเป็นหุ้นในประเทศเราเทียบกันมันก็อาจจะวัดค่าได้หรืออาจจะไม่ได้ก็ได้ หุ้นบางตัวอยู่ในกลุ่มเดียวกันแต่ P/E อาจจะวัดค่าได้ไม่เต็มที่ก็มีเยอะแยะครับในตลาดหุ้นไทย โดยส่วนตัวคำว่าตลาดแพงเกินไปนั้นผมจะเริ่มสำนึกได้ก็ต่อเมื่อผมหาหุ้นที่ดีๆแต่ราคาถูกๆตามพื้นฐานกิจการไม่เจอ ตรงนั้นแหละครับผมจะเริ่มสำนึกได้ว่ามันแพงไปแล้ว แต่ทั้งนี้การแพงไปแล้วนั้นอาจจะเป็นจังหวะหยุดของ Value investor แต่สำหรับการเก็งกำไรแล้วมันคือช่วงออกล่าที่มีประสิทธิภาพที่สุดเพราะ มีแต่ใครก็ไม่รู้ที่ผมไม่เคยพบเจอไม่เคยรู้จักเอาเงินมาเททิ้งในตลาด ให้พวกนักล่าได้ออกปล้นกัน คุณต้องเลือกเองครับ เงินของคุณมันอยู่ในมือคุณ อยากจะปล้นเงินคนอื่นหรืออยากให้คนอื่นปล้นเงินในมือคุณไปเฉยๆหละ ? เราเลือกได้ แค่เรารู้และมีวิธีการเป็นของตัวเองแล้วหรือยัง ?

เครดิต
Nikky

(ห้องคุยนักลงทุน)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น