1) จุดเข้าซื้อ (Entry point) นั้นสำคัญมาก
โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนสูงหรือแนวโน้มไม่ชัดเจน (choppy markets) ถ้าจุดเข้าซื้อหรือต้นทุนของเราไม่ปลอดภัยดีพอ ก็มักจะถูกเหวี่ยงให้ต้องซื้อๆขายๆ หรือต้อง cut loss โดยไม่จำเป็นอยู่บ่อยครั้ง
ดังนั้น โดยส่วนตัว Scott เขาจึงโฟกัสในจุดนี้มากครับ
2) อย่าไล่ราคา!
Scott กล่าวว่า หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Trader ก็คือ ‘การไปไล่ซื้อหุ้นหลังจากที่มันขึ้นไปจาก buy point มากแล้ว’ (chasing a stock AFTER it’s too extended from a proper buy point)
สาเหตุอาจจะมาจากทั้ง ความกลัวหรือความโลภก็ได้ กลัวที่จะตกรถ, กลัวหุ้นขึ้นโดยไม่มีเรา – ความโลภที่อยากจะได้กำไรเยอะๆเพียงอย่างเดียว ซึ่งสุดท้ายมักจะทำให้ over-trading และเข้าซื้อในจุดที่เสี่ยงเกินไปนั่นเอง
(พอตลาดพักหรือหุ้นเริ่มย่อแรงก็มักจะโดนเหวี่ยงออก กำไรหายหรือขาดทุน)
ดังนั้น ถ้าหุ้นตัวไหนเราซื้อไม่ทัน หรือราคาพุ่งขึ้นจากจุดเข้าซื้อของเราไปมากแล้ว ให้ปล่อยมันไปก่อน! เพราะในอนาคตจะยังคงมีโอกาสที่ดีและปลอดภัยกว่านี้อย่างแน่นอน
3) คุณควรจะมีหุ้น A และ หุ้น B ของคุณ
ความหมายคือ คุณควรรู้ความแตกต่างของหุ้นแต่ละตัวในพอร์ตให้ชัดเจน รู้ว่าหุ้นแบบไหนควรจะเล่นอย่างไร เช่น วางแผนได้ว่าหุ้นตัวนี้ควรถือเพื่อกำไรก้อนใหญ่ อีกตัวควรเล่น trading ระยะสั้น เป็นต้น เพราะว่าหุ้นแต่ละตัวก็จะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน
ซึ่งการแยกประเภทและวางแผนแบบนี้ได้นั้นมักจะมาจากประสบการณ์ โดยเมื่อเวลาผ่านไปคุณจะมีความสามารถหรือสัญชาตญาณในส่วนนี้มากขึ้น
4) ใช้ Weekly charts!
Trader จำนวนมากสนใจแค่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆในระหว่างวันหรือวันต่อวัน ทำให้พวกเขาขาดมุมมองในภาพใหญ่ซึ่งสำคัญกว่ามากสำหรับการดูแนวโน้มที่แท้จริงของหุ้นแต่ละตัว
นอกจากนี้ การใช้ Weekly charts จะช่วยให้เราประเมิน volume ในภาพรวมได้ง่ายขึ้นด้วย
5) อดทน!
แม้ว่าตลาดจะเริ่มกลับขึ้นมาบ้างพอสมควร แต่มันก็ยังไม่ใช่ขาขึ้นแบบเต็มตัวหรือ easy money อย่างในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
การที่หุ้นจะปรับตัวขึ้นแต่ละรอบต้องใช้เวลานานมากขึ้น ดังนั้น ความอดทนหรือการให้โอกาสหุ้นในพอร์ตจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ดังนั้น ให้กลับไปดูที่ข้อ 1 อีกครั้ง – การมีจุดเข้าซื้อที่ดีจะช่วยให้เราสามารถอดทนและใจเย็นขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเริ่มมีกำไรทันทีหลังเข้าซื้อ (จุดซื้อดี) เพราะมันทำให้เราสามารถอดทนรอให้หุ้นปรับตัวขึ้นไปมากกว่านี้ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
เครดิต
Nikky
(ห้องคุยนักลงทุน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น